10 Cloverfield Lane

โปรเจ็ค Bad Robot ร่วมกับ Paramount และโปรดิวซ์เซฮร์คนเก่ง เจเจ อับบรัมม์ ในโปรเจ็คภาคต่อ  Cloverfield ดูหนังเอเลี่ยนทำลายโลกที่ได้รับการตอบรับที่ดีในภาคที่แล้ว แฟนๆได้จับตามองว่าจะมีภาคต่อหรือไม่ ซึ่งทีมผู้สร้างได้ทำเซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยการเปิดตัว ตัวอย่างหนัง Cloverfield  ในชือภาคต่ออย่างเป็นทางการคือ 10 Cloverfield Lane ในงานเปิดตัวหนังเรื่องล่าสุด 13 Hours ของไมเคิล เบย์ ช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา หลังจากได้พยายามสร้างดูหนังภาคต่อเรื่องดังกล่าวอย่างเงียบๆเมื่อสองปีก่อน โดยมีแนวคิดต่อเนื่องมาจากเรื่องเดิมและมีไอเดียใหม่ๆเข้ามาเรื่อยๆ ทีมผู้สร้างจึงยังไม่ได้ตั้งชื่อเต็มเรื่อง และยังไม่ได้ประกาศชื่อเรื่องออกมาอย่างเป็นทางการ ในส่วนของนักแสดงยังคงใช้ทีมนักแสดงเดิม อาทิ  จอห์น กู้ดแมน,แมรี่ อลิซาเบธ,จอห์น กัลลาเกอร์ จูเนียร์ อีกทั้งยังมีนักแสดงสมทบเพิ่มเข้ามา เพื่อเพิ่มความระทึกตื่นเต้น มากยิ่งขึ้นไปอีก กำกับโดย แดน แทรคเทนเบิร์ก

เนื้อเรื่องของ 10 Coverfoeld Lane เริ่มขึ้นเมื่ออุบัติเหตุบางอย่างทำให้หญิงสาวคนหนึ่งหมดสติไป แล้วเมื่อเธอฟื้นขึ้นมา เธอก็พบว่ามีชายคนหนึ่งบอกเธอว่า ด้านนอกนั้นมีสงครามทางเคมีทำให้ไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีกต่อไป เธอจึงอาศัยอยู่กับเขาและชายอีกหนึ่งคนในห้องใต้ดิน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะเชื่อคำบอกเล่าของเขาไปทั้งหมด และเมื่อนั้นความสนุก ตื่นเต้น ระทึกเพื่อหาคำตอบก็เริ่มขึ้น การตื่นมาพร้อมกับการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ของหญิงสาวคนหนึ่งเธอตื่นมาในห้องใต้ดิน และเต็มเรื่องราวหั้งหลายได้เกิดขึ้น ณ ที่แห่งนี้ พร้อมกับความหวาดกลัวจากการถูกลักพาตัวและเธอก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด มีชายแปลกหน้า 2 คนที่ช่วยดูแลเธอ รวมทั้งช่วยรักษาเธอจากการถูกโจมตีด้วยอาวุธเคมี ซึ่งเป็นภัยที่มาจากนอกโลก และพยายามห้ามไม่ให้เธออกไปข้างนอก เพราะโลกกำลังอยู่ในอันตรายจากภัยคุกคาม อย่างไรก็ตามเธอยังไม่ค่อยแน่นักกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น ระหว่างที่เธอนอนสลบและหลับไป ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเธอบ้าง และเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร ผู้ชายสองคนนี้ต้องการอะไรจากเธอ สิ่งที่เขาบอกเป็นความจริงหรือไม่ มีแต่คำถามอยู่ในหัวเธอและเธอต้องการคำตอบนั้นโดยเร็วที่สุด เธอกำลังไม่แน่ใจและไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น ดังนั้นการตัดสินใจของเธอคือการออกจากที่นี่ให้ได้ อย่างน้อยการได้รับคำตอบน่าจะดีกว่าการอยู่เฉยๆในห้องใต้ดินนี้โดยไม่รู้อะไรเลย และหลังจากออกไปจากที่แห่งนี้สิ่งที่เธอต้องเจอคือการผจญอันตรายที่คาดไม่ถึง

หนังเรื่องน่าดูแค่ไหน?

ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้นยังคงความระทึกตื่นเต้น ในเรื่องของการถ่ายทำนั้นเปลี่ยนไปจากเดิมด้วยการเปลี่ยนแปลงจากการใช้กล้องวิดีโอ เพื่อความระทึกสมจริงของทุกฉากทุกตอน แต่แฟนๆบางส่วนกลับไม่ค่อยชอบมากนัก  เพราะทำให้เกิดอาการเวียนหัว คลื่นไส้หลังดูหนังมาในภาคต่อนี้ การถ่ายทำเป็นแบบปกติช่วยทำให้ผู้ชมมีความสนุกกับการรับชมมากขึ้นกว่าเดิม หนังมีคิวเข้าฉายช่วงกลางเดือนมีนาคม 2016 นี้หลายปีก่อนผู้กำกับอย่าง เจ. เจ. อับบรามส์ทำให้ความเรียล ความสมจริงของผู้ประสบเหตุการณ์ไม่คาดฝันในหนังเรื่อง Coverfield ติดตาตรึงใจใครหลายคน และดูเหมือนว่าปีนี้ ชื่อของเขาก็ยังได้รับความไว้วางใจจากนักดูหนังอยู่เหมือนเดิม และเขาวางหมากไว้กับ 10 Coverfield Lane  ไว้ที่ความไม่รู้ ไม่รู้ทั้งนักแสดง ทั้งคนดู นักแสดงไม่รู้ว่าเล่นเรื่องอะไร คนดูไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และความไม่รู้จะนำพาให้เราไม่ไว้ใจ และความไม่ไว้ใจจะทำให้เราหาคำตอบไปพร้อมๆกับนักแสดงในหนัง และนั่นคือเสน่ห์ที่ดีที่สุดของหนัง ถ้าจะบอกว่าสิ่งที่ดีที่สุดและเป็นความน่าสนใจที่สุดก็คือการวางหมากของผู้กำกับ ที่ไม่เลือกใช้จุดพีคด้วยคำโปรยเด็ดๆ หรือว่าภาพดุดัน ไปเสียหมด แต่ใช้ความลับ ความไม่รู้มาเป็นจุดขายแทน เพื่อให้ความลับนั้นถูกเปิดเผยๆไปพร้อมๆกับคนดูนั่นเอง (แหม! แบบนี้ก็ลุ้นระทึกกันสุดขีดแน่นอน) อีกอย่างหนึ่งคือ 10 Coverfield Lane ไม่ได้ใช้เทคนิคการถ่ายทำแบบถ่ายด้วยกล้องแฮนด์เมด เรียกว่าไม่ได้มากับมุกเดิมๆ ที่เน้นจำลองให้คนดูได้สัมผัสกับสถานการณ์จริง แต่มาด้วยบทใหม่ มุกใหม่ ซึ่งคนดูอย่างเราก็มีหน้าที่ลุ้นว่า คำบอกเล่าในเรื่องที่ชายคนหนึ่งบอกว่าโลกภายนอกอยู่ไม่ได้แล้วนั้นเป็นความจริงหรือเปล่า ซึ่งเชื่อว่าคำตอบน่าจะมีมากกว่าคำว่าจริงหรือไม่จริง แต่ถ้าอยากรู้คำตอบแบบเต็มๆนั้น ต้องไปดูในหนังด้วยตัวเอง เพราะผู้กำกับเขาไม่อยากให้เฉลยง่ายๆ