Batman v Superman: Dawn of Justice
Batman v Superman: Dawn of Justice (แบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน: แสงอรุณแห่งยุติธรรม) และแล้วก็มาถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยสำหรับดูหนังฟอร์มยักษ์แห่งปี 2016 อีกเรื่องหนึ่งที่น่าติดตามอย่างมากในเวลานี้ นั่นคือเต็มเรื่อง “แบทแมนปะทะซุปเปอร์แมน รุ่งอรุณแห่งความยุติธรรม” ซึ่งเป็นการประชันบทบาทระหว่างฮีโร่สองตัวละครที่เป็นที่รู้จักกันดีอย่าง “ซุปเปอร์แมน” ฮีโร่ผู้มีพลังเหนือมนุษย์ทั่วไปและมีพลังที่จะทำลายล้างได้อย่างมหาศาลและ “แบทแมน” ผู้ดูแลเมืองก็อทแธมที่ทำตัวราวกับเป็นศาลเตี้ย คอยใช้กำลังในการตัดสินใจในสิ่งต่างๆ จนนำไปสู่การต่อสู้กันอย่างรุนแรง และในระหว่างที่ทั้งสองกำลังต่อสู้กันนั้นผู้คนในเมืองต่างพากันออกความคิดเห็นเพื่อตัดสินใจว่า ซุปเปอร์แมนนั้นเป็นที่ต้องการของมนุษยชาติจริงหรือ? โลกยังต้องการซุปเปอร์แมนอยู่หรือไม่? เราจะได้เห็นการปะทะกันระหว่าง แบทแมน และ ซุปเปอร์แมน แต่ไม่รู้ถึงสาเหตุของการปะทะกันในครั้งนี้ แต่ล่าสุดได้มีเรื่องย่อของดูหนังเรื่องนี้พร้อมกับข้อมูลต่างๆ ถ่ายทำเสร็จเป็นที่เรียบร้อย สำหรับหนังที่หลายคนรอคอย กับการนำซูเปอร์ฮีโร่ขวัญใจตลอดกาลของโลกมาปะทะกันในหนังเรื่อง Batman v Superman Down of justice แน่นอนว่าการเอาสองซูเปอร์ฮีโร่มาประจันหน้ากันนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เอาแค่ความสงสัยว่าทำไมใช้ V ไม่ใช่ Vs นี่ก็ตีความกันสนุกสนานแล้ว โดยเนื้อเรื่องนั้นจะเกี่ยวข้องกับใน Comic ตอน The Dark Knight Returns ของ Batman นั่นเอง ซึ่งหากใครยังสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถไปติดตามอ่านกันได้ Collider เว็บไซต์ชื่อดังได้เปิดเผยเรื่องย่อของดูหนังเรื่องนี้โดยข้อมูลมาจากงวอร์เนอร์ บราเธอร์สที่เตรียมนำไปใช้ในงาน Licensing Expo โดยจะมีการจัดขึ้นในสัปดาห์หน้าที่ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งนอกจากนี้ยังมีการบอกถึงสาเหตุของการต่อสู้กันระหว่างแบทแมน และ ซุปเปอร์แมน พร้อมกับบอกว่าจะมีภัยคุกคามใหม่ ที่จะปรากฏอยู่ในหนังเต็มเรื่องนี้
- ชื่อภาพยนตร์
- Batman v Superman: Dawn of Justice
- ผู้กำกับ
- แซ็ก สไนเดอร์
- นักแสดงนำ
- เบน แอฟเฟล็ก, เฮนรี แควิลล์, เอมี แอดัมส์ , เจสซี ไอเซนเบิร์ก
- ประเภท
- เข้าฉาย
- 25 มีนาคม 2016
หนังดีที่น่าดูอีกเต็มเรื่อง Batman v Superman: Dawn of Justice
เนื้อเรื่องเต็มนั้นจะเกี่ยวพันเกี่ยวกับพลังอันมากมายมหาศาลของซูเปอร์ฮีโร่ทั้งสองคนที่เราเองก็คงรู้ดีกว่าแข็งแกร่งเหมือนกันทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นซูเปอร์แมน ที่เราจะเห็นพลังอันน่ากลัวจาก Man of Steel ที่เราได้เห็นว่าพลังของซูเปอร์แมนอันอลังการงานสร้างขนาดไหน แต่กับ Batman นั้นเหมือนจะถูกตราหน้าว่ามักจะทำตัวเป็นศาลเตี้ย ตัดสินผู้ร้ายโดยไม่เกรงกลัวอำนาจของกฏหมายหรือศาล แน่นอนว่าสองซูเปอร์ฮีโร่นั้นดูน่ากลัวพอกัน แถมเมืองที่ทั้งคู่อาศัยนั้น ถึงจะใกล้กันราวกับเป็นเมืองพี่เมืองน้อง แต่ว่าต่างกันลิบลับ เพราะเมโทรโพลิสนั้น อู้ฟู่หรูหรา รุ่งเรือง ผิดกับก็อทแธม ที่ดูเหมือนจะเป็นเมืองของคนยาก เมื่อทัศคติ และหลักการหลายอย่างดูจะย้อนแยงกันไปมา ก็ถึงเวลาที่ต้องมาหาจุดพอดีให้เจอ แต่การตีความในเรื่องของการทำความดีไม่ได้มีหลักเกณฑ์ที่ตายตัว ความดีของแบทแมนกับความดีของซูเปอร์แมนบางครั้งมันก็แตกต่างกัน มุมมองของหนังเรื่องนี้ที่ผ่านซูเปอร์ฮีโร่ จึงเป็นที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดอย่างยิ่งในปี 2016 นี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นผลที่สืบเนื่องมาจากการต่อสู้ของซุปเปอร์แมนเมื่อครั้งที่ต่อสู้ที่เมืองเมโทรโพลิส (ซุปเปอร์แมน ภาค แมนออฟสติล) ส่งผลให้เกิดความเสียหายมหาศาลจนทำให้ผู้คนบาดเจ็บ สุญเสียอย่างมากมายจนทำให้ผู้คนต่างพากันระแวง กลัวฝังใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นและนำไปสู่การที่เขาไม่เป็นที่ยอมรับของผู้คน ไม่เป็นที่ไว้วางใจจากรัฐบาลปัจจุบันและในขณะที่เกิดเหตุการณ์มากมายระหว่างฮีโร่ทั้งสอง ขณะที่มนุษยชาติกำลังสับสนต่อความรู้สึกที่มีต่อซุปเปอร์แมนและความบาดหมางระหว่างซุปเปอร์แมนและแบทแมนที่ค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ได้ปรากฎตัวละครวายร้ายตัวใหม่ที่ได้โผล่ออกมาและนำไปสู่อันตรายอย่างมหาศาลมากกว่าครั้งใดที่มนุษยชาติเคยพบเจอ สำหรับหนังเรื่องนี้ก็ได้มีตัวละครใหม่เพิ่มเข้ามาอย่าง “วันเดอร์วูแมน”, “อควาแมน” , “ไซบอร์ก” , “เดอะแฟลช มนุษย์สายฟ้า” และ “เล็กซ์ ลูเธอร์” ที่เข้ามาเพิ่มอรรถรสในดูหนังเรื่องนี้ร่วมด้วย
เรื่องย่อฉบับที่สอง
เนื้อเรื่องจะดำเนินต่อเนื่องมาจากเรื่อง Man of Steel เมื่อการต่อสู้ของซูเปอร์แมนในภาคที่แล้วนั้นทำให้เกิดความเสียหายมหาศาล แบทแมนที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นเฝ้าครุ่นคิดถึงพลังการทำลายล้างที่ยิ่งใหญ่ เพราะถึงแม้ว่าซูเปอร์แมนจะมีพลังช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ แต่พลังนั้นก็ยิ่งใหญ่และมีการทำลายล้างที่ใหญ่มาก ทำให้ซูเปอร์แมนนั้นไม่ได้รับการไว้วางใจ แต่ทำให้เกิดความสับสนขึ้นกับสังคมที่บางส่วนกลัวกับพลังเหนือมนุษย์นี้ ขณะเดียวกันซูเปอร์แมนเองก็เฝ้าสืบเงียบๆว่าใครคือตัวจริงของแบทแมน พร้อมๆกับที่รอยร้าวของแบทแมนและซูเปอร์แมนนั้นขยายขึ้นเรื่อยๆ ฝ่ายอธรรมที่อยากอาศัยจังหวะนี้คุกคามโลกอย่างรวดเร็ว และเป็นหน้าที่ที่ทั้งซูเปอร์แมนและแบทแมนต้องจัดการให้เรียบร้อย
หนังเรื่อง Batman v Superman จะเป็นตัวปูทางสู่ซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่น
ข่าวหนึ่งที่น่าดีใจคือด้วยความที่หนังเรื่องนี้นั้นจะปูทางให้เหล่าซูเปอร์ฮีโร่เรื่องอื่น เชื่อว่าตอนท้ายเราจะได้เห็นซูเปอร์ฮีโร่มากมายดาหน้ากันออกมาให้ชื่นใจ หลายคนถึงกับร้องด้วยความดีใจว่ามันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม แต่ถ้าหากจะพูดถึงเพียงหนังเรื่องนี้ก็ต้องยอมรับว่า นี่คือการนำซูเปอร์ฮีโร่ที่เต็มไปด้วยพลังและดีที่สุดของจักรวาล DC มาปะทะกันเลยทีเดียว ทั้งแบทแมนและซูเปอร์แมนเป็นฮีโร่ที่มีหลายสิ่งหลายอย่างน่าสนใจและน่าค้นหา เต็มไปด้วยพลังและปริศนามากมายในจิตใจ มิใช่เพียงฮีโร่ที่มีด้านเดียว แต่หากจะระบายสีให้ทั้งทั้งสองซูเปอร์ฮีโร่ เราก็ต้องยอมรับว่าสีนั้นไม่ถึงกับสดใส ออกจะหม่นเสียด้วยซ้ำ แต่มันก็คือเสน่ห์ที่ทำให้ทั้งแบทแมนและซูเปอร์แมนยังนั่งเป็นขวัญใจคนดูมาจนถึงบัดนี้ เพราะฉะนั้นเราจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะพลาดหนังเรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียว
ความน่าสนใจของการดูหนังเรื่อง แบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน
แล้วเรามารอชมสงครามครั้งนี้กันว่า ระหว่าง “เทพบุตรแห่งคริปตันกับหนุ่มค้างคาวแห่งเมืองก็อตแธม” คนไหนจะชนะสงครามครั้งนี้ไปได้? ผลที่ออกมาจะเป็นไปอย่างที่คิดไว้หรือไม่? แล้ววายร้ายตัวใหม่จะถูกกำจัดไปได้หรือไม่? ความสงบสุขของมนุษยชาติจะกลับคืนได้ในที่สุดจริงหรือ? ภัยคุกคามคืออะไร ซึ่งจะเป็น เล็กซ์ ลูธอร์ หรือว่าจะเป็นดูมส์เดย์ (Doomsday) อสุรกาย ที่ไม่มีวันตายซึ่งมันเกิดจากการทดลองของชาวคริปโตเนียน แบทแมน ปะทะ ซูเปอร์แมน: แสงอรุณแห่งยุติธรรม คือชื่อภาษาไทยของหนังเต็มเรื่องนี้ โดยมี แซ็ค สไนเดอร์ จากบท คริส เทอริโอ (Argo) พัฒนาบทจากเรื่องของสไนเดอร์ และ เดวิด เอส. โกเยอร์ เป็นผู้กำกับ พร้อมกับนักแสดงมากมาย Batman v Superman: Dawn of Justice เตรียมฉายให้คนดูหนังในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 25 มีนาคม 2016 แต่หนังเต็มเรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายในโรงหนังของไทยวันที่ 24 มีนาคม 2559