Cell

เพราะคนที่ไม่ถูกควบคุมกลายเป็นคนส่วนน้อยที่ต้องหนีการไล่ล่าจากคนที่กำลังบ้าคลั่งจากสัญญาณโทรศัพท์มือถือ เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอนมีบางอย่างต้องการทำลายล้างมนุษยชาติด้วยวิธีนี้ หนังเรื่องนี้อาจกล่าวถึงการไล่ล่าที่เกิดขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อและความรุนแรงจากการทำร้ายกันเอง อีกหนึ่งเรื่องราวผลงานเขียนของเจ้าพ่อนิยายสยองขวัญ สตีเฟ่น คิง ที่ได้รับเลือกมาทำเป็นหนังอีกแล้ว หลังจากที่ประสบความสำเร็จมาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Misery , The Shining   หรือที่ฮือฮากับตอนจบอย่าง The mist เป็นต้น คราวนี้เป็นคิวของเรื่อง Cell ในชื่อไทยว่า โทรศัพท์ซอมบี้ ซึ่งแค่ชื่อเรื่องก็บอกเป็นแนวทางไว้แล้วว่างานนี้ซอมบี้วิ่งพล่านเลือดสาดอย่างแน่นอน ส่วนผู้ที่มารับหน้ากำกับคือ Tod Williams นำแสดงโดย Owen Teague, Samuel L. Jackson, John Cusack และนักแสดงที่เคยสร้างความฮือฮาด้านการแสดงอย่าง อิซาเบล เฟอร์แมน อดีตเด็กนรกในหนังเรื่อง Orphan

แต่แกนหลักคือความรักและความห่วงใยของคนในครอบครัว ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลกันมากสักเพียงใดก็ยังคงกลับมาหากันเพราะความคิดถึง นำแสดงโดยดาราเจ้าบทบาทอย่าง ซามูเอล แจ็คสัน, จอช คูแชค, อิสซาเบล เฟอร์แมน,โจซัว มิเกล และสเตซี่ คีช ที่จะพาผู้ชมหนีการไล่ล่าและตามหาต้นตอที่แท้จริงของปรากฎการณ์โฟนเนอร์ กำกับการแสดงโดย ทอดด์ วิลเลี่ยม มนุษย์อาจควบคุมได้ทุกสิ่งแต่ความจริงไม่ใช่ทุกสิ่งที่มนุษย์ควบคุมได้โดยเฉพาะจิตใจที่อ่อนแอ

Cell เรื่องย่อของหนัง

เรื่องราวของ Cell เริ่มต้นขึ้นเมื่อ เคลย์ ริดเดล กำลังโทรหาภรรยาของเขา ซึ่งทั้งคู่ไมได้พบหน้ากันมานาน เพื่อจะแจ้งข่าวดีว่าเขาสามารถขายลิขสิทธิ์นวนิยายภาพของเขาได้แล้ว ขณะที่เขาอยู่ที่สนามบิน ยังไม่ทันที่ภรรยาของเขาจะตอบอะไรสายก็หลุดไปทันที และเมื่อนั้นความสยองก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อ สัญญาณประหลาดจากเครือข่ายดังสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณเปลี่ยนคนที่ได้รับสัญญาณกลายเป็นซอมบี้ที่แสนจะบ้าคลั่ง ออกไล่ล่าฆ่าคนไปทั่ว เคลย์จึงต้องร่วมมือกับ ทอม แม็คคอร์ท เจ้าหน้าที่รถไฟใต้ดินที่รอดจากการกลายเป็นซอมบี้ เพื่อฝ่าฟันเหตุการณ์เลวร้ายนี้ไปให้ได้ ระหว่างเขาทั้งคู่ยังได้พบกับเด็กสาวอีกคนหนึ่งที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้เหมือนกัน ทั้งสามจึงร่วมเดินทางไปทางเหนือเพื่อค้นหาครอบครัวของเคลย์ ริดเดิ้ล ซึ่งเคลย์ต้องปกป้องครอบครัวที่เขารักให้ได้ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป เคลย์ ริดเดล เดินทางมาพบภรรยาและลูกชายคนเดียว นั่นคือสิ่งที่เขาปรารถนามากที่สุด หลังจากได้รับงานสำคัญ และอยากเดินทางไปฉลองความสำเร็จกับครอบครัว ก่อนการเดินทางเขาได้โทรหาภรรยาและลูกเพื่อแจ้งเที่ยวบินกลับและจะได้เจอกันอย่างพร้อมหน้า ทุกอย่างไม่ค่อยเป็นใจเมื่อโทรศัพท์แบตหมดในสนามบิน เขาจึงเปลี่ยนมาใช้โทรศัพท์สาธารณะ แต่การสนทนาของภรรยาของเขาเปลี่ยนไปจากครั้งแรกที่คุยกันอย่างปกติดีหลังจากนั้นสัญญาณโทรศัพท์ก็ถูกตัดขาด และเรื่อราวที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ผู้คนในอาคารผู้โดยสารต่างๆมีอาการแปลกประหลาด และมีอาการคุ้มคลั่งไล่ทำร้ายผู้คน จนเกิดความโกลาหลไปทั่ว เพราะเหตุการณ์รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆเพราะมีการทำร้ายกันจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามเขาพยายามหนีเอาตัวรอดเพื่อที่จะได้ไปพบครอบครัวอีกครั้ง ระหว่างหนีจากภัยร้ายเขาได้พบกับ ทอม แม็คคอร์ท เจ้าหน้าที่รถไฟ และอลิซ แม็กเวลล์ สาววัยรุ่นที่พร้อมจะเดินทาง ทั้งสามได้ตกลงออกเดินทางร่วมกันเพื่อเอาตัวรอดจากความโกลาหลนี้ ก่อนที่จะไปตามหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่น่ากลัวเช่นนี้ และในทุกพื้นที่จะไม่มีความปลอดภัยอีกแล้ว กลุ่มคนที่บ้าครั้งมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และได้ทำลายสิ่งของและคร่าชีวิตมนุษย์ด้วยกัน เขาต้องร่วมใจกันฝ่าฟันฝูงโฟนเนอร์ที่กำลังบ้าคลั่ง เพื่อเดินทางไปช่วยเหลือลูกชายของเขาให้ได้

หยิบประเด็นเรื่องโทรศัพท์มาสร้างเป็นหนังสยองขวัญได้อย่างบ้าคลั่ง เพราะนี่คือยุคที่ไม่ว่าใครต่างก็มีโทรศัพท์มือถือ แถมยังส่งสัญญาณอินเตอร์เนทเชื่อมหากันแทบจะตลอดเวลา ทุกคนต่างก็ก้มหน้าก้มตากับโทรศัพท์จนมีสภาพเหมือนซอมบี้อย่างไรอย่างนั้น เลยทำให้ดูเสียเลยว่าถ้าหากกลายเป็นซอมบี้ขึ้นมาจริงๆ มันจะเป็นอย่างไร และอีกประเด็นที่น่าสนใจคือการที่ตัวเอกของเรื่องต้องตามปกป้องครอบครัวที่อยู่แสนไกล แต่เหมือนจะยิ่งยาก เพราะคลื่นโทรศัพท์ทำให้คนกลายเป็นซอมบี้ กลายมาเป็นอุปสรรคขัดขวางที่ทำให้เขากับภรรยาห่างไกลกันมากขึ้น เหมือนที่โซเชียลเนตเวิร์คทำให้เราสนใจกันน้อยลง อยู่ใกล้ก็เหมือนไกลประมาณนั้นเลย ประหนึ่งว่าคนเขียนหยิบเอาเรื่องราวปัญหาในปัจจุบันมาเขียนแบบโต้งๆ โดยใช้ซอมบี้เป็นสัญลักษณ์ของปัญหา แต่ส่วนในเรื่องขององค์ประกอบต่างๆว่าจะโดนใจ หรือทำออกมาได้สนุกสนานมากน้อยแค่ไหนนั้นคงต้องไปตัดสินกันเอาเองในหนัง หนังเต็มเรื่องนี้สร้างความระทึกได้เรื่อยๆ ไปตลอดทั้งเรื่องบวกกับความดราม่าที่เกิดขึ้นในช่วงที่ต้องการพบครอบครัว ไม่ว่าจะอย่างไรอันตรายแค่ไหน ขอเพียงได้พบลูกชายเคลย์ยอมที่จะเสี่ยงชีวิต ดูหนังมีคิวเข้าฉายในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2016 นี้