Fantastic Four

เราก้าวมาไกลขนาดนี้ได้อย่างไร มนุษย์นั้นมีความปรารถนาที่มากเกินตรวจวัด เพื่อการค้นพบ เพื่อประดิษญ์คิดค้น เพื่อสร้าง อนาตคของเาขึ้นอยู่กับการใช้ไอเดียเหล่านี้ ความรับผิดชอบ…ที่ตกทอดสู่คนรุ่นต่อไป Fantastic Four เป็นเรื่องราวของเด็ก 4 คนที่เป็นนักคิดค้นแต่เกิดการทดลองที่ผิดพลาดทำให้พวกเขาได้รับพลังงานพิเศษบางอย่าง ร่างกายของพวกเขาจะได้สามารถเปลี่ยนแปลงไปตามพลังงานของแต่ละคนได้รับ (อิงตามภาคก่อน) และทุกครั่้งที่มีการค้นพบใหม่…ย่อมมีความเสี่ยง มีส่ิ่งที่ต้องเสียสละ และผลต่อเนื่องที่ตามมาเสมอ จากเพื่อนจะกลายเป็นศัตรู

เรื่องย่อ

Fantastic Four (สี่พลังคนกายสิทธิ์) เป็นเรื่องราวความฝันในการเดินทางสู่อวกาศของ ดร.รี้ด ริชาร์ด ที่สามารถกลายเป็นจริงได้ โดยการสนับสนุนของรัฐบาล และวิคเตอร์ วอน ดูม มหาเศรษฐีพันล้าน ที่เป็นอดีตคู่แข่งสมัยเรียนของเขา ทำให้รี้ดและสมาชิกในทีม คือเพื่อนรักของเขาอย่าง เบน กริมม์ อดีตนักบินอวกาศ, ซู สตอร์ม ผู้อำนวยการของการวิจัยทางพันธุศาสตร์ของ วอน ดูม ซึ่งเป็นอดีตแฟนเก่าของรี้ด รวมทั้งน้องชายอารมณ์ร้อนของซู จอห์นนี่ สตอร์ม ได้ร่วมเดินทางสู่อวกาศไปยังศูนย์กลางของพายุคอสมิค เพื่อไขความลับเรื่องรหัสพันธุกรรมของมนุษย์ อันจะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ แต่เรื่องราวไม่ได้ง่ายเมื่อเกิดความผิดพลาดระหว่างปฏิบัติภารกิจ ภายหลังจากถูกพายุรังสีคอสมิคเข้าถาโถม ทำให้ทั้ง 4 คน เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมจนกลายเป็นมีพลังพิเศษเหนือธรรมชาติ โดยรี้ดพบว่าตัวเองมีความสามารถในการยืดและบิดร่างกาย ขณะที่ซูกลายเป็นสาวล่องหน ส่วนน้องชายของเธอกลายเป็นมนุษย์เพลิง และเพื่อนรักของเขากลายเป็นมนุษย์หิน ทำให้ทั้งหมดรวมตัวกันขึ้นเป็นกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า แฟนตาสติค (Fantastic) และร่วมมือกันปกป้องโลกจากเพื่อนเก่าที่กล­ายมาเป็นศัตรู

ประวัติของหนัง

Fantastic ได้สร้างมาแล้ว 2 ภาค โดยเนื้อหาในภาคหนึ่ง จะเริ่มเกริ่นจากความฝันของชายคนหนึ่งที่เป็นทั้ง นักประดิษฐ์ นักบินอวกาศ และนักวิทยาศาสตร์ รวมอยู่ในคนเดียวกัน ดร.รี้ด ริชาร์ด และ เมื่อฝันของเขาเดินทางมาจนใกล้จะถึงความเป็นจริงแล้ว เขาได้นำลูกทีมของเขาเดินทางสู้ห้วงกาลอวกาศ เพื่อไปยังจุดศูนย์กลางของ พายุคอสมิค เขาหวังว่าเมื่อเขาและลูกทีมเดินทางไปถึงสถานที่นั้นแล้ว เขาจะสามารถ ไขความลับ เรื่องราวของรหัสพันธุกรรม ของมนุษย์ได้ เพื่อที่จะนำไปสร้างประโยชน์ให้แก่มนุษย์ชาติ แต่ ความฝันของเขาก็เกือบจะถูกทำลาย ดร. ถูกรัฐบาลตัดงบประมาณอันมหาศาลของเขา ดร.จึงจำเป็นที่จะยอมรับแล้วละทิ้งการเดินทางที่อาจเรียกได้ว่าครั้งประวัติศาสตร์ของโลก แต่ ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ในเมื่อเข้าตาจน ด้วยความที่ต้องการจะสานฝันต่อ สุดท้าย ดร.รี้ด จึงตัดสินใจยอมรับทุนจากคู่แข่งของเขาในสมัยเรียนมหาวิทยาลัย วิคเตอร์ วอนดูม ซึ่งตอนนนี้เป็นมหาเศรษฐีพันล้าน จากการทำธุรกิจด้านอุตสาหกรรม หลังจากนั้นการเดินทางของ ดร.รี้ดก็ได้เริ่มต้นขึ้น โดยลูกทีมของเขาสำหรับการทำภารกิจนี้ให้สำเร็จประกอบไปด้วย นักบินอวกาศ เบนกริมม์ ผู้อำนวยการการวิจัยทางพันธุศาสตร์ของวอนดูม ซูสตอร์ม อีกทั้งเธอยังเป็นแฟนเก่าของดร.รี้ดอีกด้วย และ น้องชายของซู นักบิน จอนห์นี่ สตอร์ม ภารกิจดำเนินไปอย่างช้าๆเรียบง่ายและน่าเบื่อ จนกระทั่ง ดร.รี้ด ค้นพบว่าเขาคำนวณความเร็วของพายุผิดพลาด และ พายุกำลังจะเข้ามาจ่อตรงหน้าเขาภายในเวลาอีกไม่กี่นาที สถาณการ์ณเลวร้าย เนื่องจาก สถานีอวกาศถูกล้อมรอบด้วยเมฆหมอกรุนแรงของรังสีคอสมิก ซึ่งก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมของลูกทีมทั้งหมด ดีเอ็นเอของพวกเขาถูกเปลี่ยนแปลงโดยไม่รู้ตัว และ หลังจากพวกเขาเดินทางกลับมายังโลก ผลกระทบของรังสีก็เริ่มถูกเปิดเผยอย่างรวดเร็ว รี้ดมีความสามารถในการยืดและปิดร่างกายของเขาได้อย่างอิสระ และ ฐานะผู้นำกลุ่ม เขาได้รับการขนานนามว่า มาสเตอร์แฟนตาสติค ซูสามารถล่องหนและสร้างสนามพลังได้ เธอจึงกลายเป็นมนุษย์ล่องหน จอห์นนี่กลายเป็นมนุษย์คบเพลิง และ เบนการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของเขาน่าตกใจที่สุด เขากลายเป็นมนุษย์หิน ผิวของเขาเปลี่ยนเป็นสีส้มลีความแข็งแกร่งมากกว่ามนุษย์ทุกคน ทุกคนเรียกเขาว่า เดอะธิง หลังจากนั่นแกงค์ แฟนทาสติกโฟร์ ก็ถือกำเนิดขึ้น พวกเขาเปลี่ยนโศกนฏากรรมให้กลายมาเป็นชัยชนะ เปลี่ยนความหายนะให้กลายเป็นการรวมพลังร่วมแรงร่วมใจ โดยการใช้พลังอันแตกต่างของแต่ละคนที่มีเอกลักษณ์และความแกร่งของทุกคนมาผนึกกำลังกันเพื่อทำลายแผนชั่วร้ายของดร.ดูม ที่กลายเป็นมนุษย์เหล็ก และ เพื่อปกป้องมหานครนิวยอร์คให้รอดพ้นจากการถูกคุมคามจากอันตรายมาสเตอร์
Fantastic4 :Rise of the Silver surfer
ในภาคที่สองนี้จะเป็นการสานต่อเรื่องราวความรักระหว่าง รี้ดและซู เบนและอลิเซีย กับการต่อสู้กับตัวร้ายจากนอกโลกอย่าง ซิลเวอร์ เซิฟ และ อดีตดร.ดูม ผู้ชั่วร้าย แรกเริ่มหนังประเดิมฉากการแต่งงานของรี้ด หลังจากนั้น ทั่วโลกก็ได้รับมหันตภัยร้ายจาก ซิลเวอร์ ที่มาป่วนงานแต่งงานของรี้ดและซู ในภาคนี้ซูเป็นตัวละครที่ค่อนข้างมีการพัฒนาของพลังที่ค่อนข้างโดดเด่นและเป็นตัวเอกในเรื่องเลยก็ว่าได้ ส่วนหัวหน้ากลุ่ม F4 ของเราก็ยังคงเดิม ทำแต่งาน แต่ในภาคนี้ค่อนข้างพัฒนาการเข้าสังคมและฉลาดขึ้น ส่วนน้องชายของซู จอนห์นี่และเบน ก็ยังคงมีพลังเหมือนเดิม ในภาคนี้ซิลเวอร์ ไม่เชิงเป็นตัวร้าย เรียกว่ากึ่งๆพระเอกก็ได้นะ แต่ ดร.ดูมยังคงความชั่วร้ายและโหดมากกว่าเดิมอีกด้วย

แนะนำนักแสดง

Michael B. Jordan รับบท The Human Torch

จากด้วยผลงานที่ผ่านๆมา แม้ว่าจะเป็นคนที่เพิ่งผ่านผลงานมาไม่มาก แต่อย่างน้อย คาแร็กเตอร์ของเขาก็ได้ไปสุดตาผู้กำกับเข้าเต็มๆ ด้วยเนื่องจากผลงานที่ถึงแม้จะน้อย แต่ก็มีมาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นการสร้างโปรไฟล์บทบาทใหม่ไปในตัว ซึ่งผลงานของ Michael B. Jordan เรียกได้ว่าถูกป้อนมาปีต่อปีเลยทีเดียว แถมยังเป็นผลงานใหญ่ๆทั้งนั้น ประกอบไปด้วย

• 2012 Chronicle
• 2013 Fruitvale Station
• 2014 That Awkward Moment

แต่ก็ได้มีกระแสข่าวลือขึ้นมาว่า Jordan เนี่ยน่ะเหรอ? ที่จะมาเทียบกับบทบาทของ The Human Torch เพราะบทบาทนี้ ได้มีคนเล่นจนกลายเป็นขวัญใจมาแล้ว ด้วยลุคบทบาทที่เคยเล่นไว้ของ Chris Evans พระเอกกัปตันอเมริกาในตอนนี้ ซึ่งงานนี้ Jordan จะต้องได้รับศึกหนักทั้งบทบาทและกระแสนิยมของThe Human Torch ไปอย่างช่วยไม่ได้ เรามาให้กำลังใจและดูกันต่อไปว่า เขาจะเล่นได้สมบทบาทหรือเปล่า
Kate Maraรับบท The Invisible Woman

เธอเป็นสาวที่มากด้วยประสบการณ์และงานแสดงที่เข้ามาไม่ขาดสาย ทำให้ Kate Mara คว้าบทบาท The Invisible Woman ไปเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากผู้กำกับของเร็คงจะไปสะดุดตาในหนังที่เธอเคยเล่นอย่าง Iron Man 2 ด้วย เลยอยากให้เธอมีบทบาทในโลกของซุปเปอร์ฮีโร่ MAVAL บ้าง ซึ่งผลงานที่ผ่านมาก็มี

• 2005 Brokeback Mountain
• 2006 Zoom
• 2007 Shooter
• 2010 Happythankyoumoreplease
• 2010 Iron Man 2
• 2011 10 Years
• 2012 Deadfall

Miles Teller รับบท Mr. Fantastic

ในที่สุดก็ได้ตัวหัวหน้า Fantastic จนได้ ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน หนุ่มหล่อมากใส่ ขาวอมชมพูอย่าง Miles Telle ที่มารับบทบาทเป็น Mr. Fantastic จากด้วยผลงานที่ผ่านมา เขาต้องพิสูจน์ผลงานอย่างมากมาย พร้อมทั้งคาแร็กเตอร์ที่ดูเป็นผู้นำในความคิดของผู้กำกับ กว่าจะได้มาเป็น Mr. Fantastic ที่กำลังจะเข้าฉายในเดือนสิงหาคมนี้ รวมถึงทุกคนก็กำลังเฝ้ารอชมผลงานของเขา ว่าจะตอบโจทย์ได้ดีหรือเปล่า หรือจะพลาด แป้กไป เราไปร่วมให้กำลังใจเขาได้ด้วยการดูหนังเรื่องFantastic Fourกันครับ
ผลงานที่ผ่านมา

• 2011 Footloose
• 2012 Project X Miles
• 2013 21 & Over Miller
• 2013 The Spectacular Now
• 2014 That Awkward Moment

Jamie Bell รับบท The Thing

จบส่งท้ายด้วยหนุ่มหล่อดั้งโด่งของเรา ที่มารับบทบาทเป็นมนุษย์หิน The Thing จนไม่ได้เห็นหน้าตาอันหล่อเหลาเลยกับ Jamie Bell เขาได้ฝากผลงานเอาไว้มากมาย ซึ่งผลงานที่บูมอย่างต่อเนื่องของเขา เกิดขึ้นในปี 2011 ทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่มีผลงานมากคนหนึ่งในปีนั้น ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้สร้างบทบาทใหม่ในเรื่อง Man on a Ledge พร้อมทั้งงานแสดงหลากหลาย จนในที่สุด ก็ได้มารับบท The Thing ไปเป็นที่เรียบร้อย
ผลงานที่ผ่านมา

• 2000 Billy Elliot
• 2008 Jumper
• 2011 The Eagle
• 2011 Jane Eyre
• 2011 The Adventures of Tintin
• 2012 Man on a Ledge

หนังเรื่อง Fantastic4 ใน 2015 จากตัวอย่างเป็นอย่างไร

ภาคนี้เรียกได้ว่าเป็นภาครีบูธ ก็ว่าได้หลังจากที่ Trailerแบบเต็มเรื่องถูกปล่อยออกมาเรียกว่าตอกหน้าเซียนที่ด่าหนังเรื่องนี้เอาไว้แบบหงายเงิบกันเลยทีเดียว เปิดฉากมาก็เริ่มเลยที่ตึก Baxter Building ที่เปรียบเสมือนบ้านและฐานบัญชาการของเหล่า F4 และจากนั้นภาพได้ตัดไปที่บ้านเกิดของวายร้ายของเรา ดร.ดูม และมาถึงภาพการทดลอง การทดลองนี้คงเปรียบเหมือนแสดงความพยายามของ รี้ดในวัยเด็กที่จะพยายามจะเทเลพอร์ตรถของเล่นของเขา และข้างๆตัวเขายังมีเบนอยู่ข้างๆอีกด้วย จากนั้นในการทดลองที่2 ในรอบนี้เป็นการทดลองที่ใช้คนจริง ไม่ใช่รถของเล่นแบบเด็กๆอีกแล้ว แต่อุปกรณ์ในดูหนังเต็มเรื่องฉากก็ยังคงดูธรรมดา ไม่ได้ไฮเทคทันสมัยอลังการล้านแปดอะไรมากมาย หลังจากนั้นดร.รี้ดในวัยหนุ่มได้เดินชมอุปกรณ์การทดลองต่างๆ และต่อมาคือซูสตรอม์ ในตัวอย่างเหมือนหล่อนกำลังทำงานอยู่ในฐานทัพของทหาร เพราะรอบๆตัวเธอมีแต่เหล่าทหาร และ ในตัวอย่างแสดงให้เห็นว่างานที่เธอกำลังทำเหมือนกำลังตามล่าตัวใครสักคน หรือค้นหาอะไรสักอย่างอยู่ จากพิกัดบนจอมอนิเตอร์ และ การทดลองครั้งที่3 มาคราวนี้อุปกรณ์ทั้งหลายได้อัพเกรดมาทันสมัยไฮเทคขึ้นเรียกว่าอลังการล้านแปดแตกต่างจากเดิมมากเลยทีเดียว และ ยังมีผู้เข้าร่วมการทดลองมากถึง 6 คน และ ในขณะที่พวกเขากำลังจะเริ่มต้นการทดลองครั้งนี้ ได้มีเงาหนึ่งกำลังมองดูพวกเขาเดินเข้าสู่เครื่องเทเลพอร์ตอีกด้วย จาก และมีภาพ ดร.แฟรงคลิ้นท์ สตรอม พ่อของซู และ จอนห์นี่ หลุดออกมา จากนั้น ภาพของรี้ดในชุดทดลองซึ่งน่าจะเป็นของเขาเองเพราะชุดมันดูไม่ทันสมัยเลย ในสภาพที่ยับเยินกำลังพยายามหนีออกจากซากปรักหักพังทั้งหลาย ซึ่งมันน่าจะเป็นผลจาการทดลองทุนต่ำของเขา รี้ดมาปรากฏตัวอยู่กลางป่าในสภาพสบักสบอม และ ตัดมาที่ภาพของเดอะธิง ที่ โผล่ตัวเองออกมาจากก้อนหินขนาดยักษ์ ซูพยายามพยุงจอนห์นี่ที่บาดเจ็บหนักเจียนตาย และตัดมาที่จอนห์นี่ใช้พลังเปลวเพลิงสร้างไฟขึ้นรอบๆตัว จากนั้นตัดมาที่ภาพผู้ทดลองสองคนกำลังหนีจากอะไรบางอย่าง ซึ่งเดาว่าอาจจะเป็นเงาของ ดร.ดูม และเหมือนภาพจะตัดมาที่ ซู และจอนห์นี่ปล่อยพลังใส่กัน ตัดมาที่รี้ดพยายามใช้พลังยืดร่างกายของเขาเอง ต่อมา รี้ดได้เดินเข้าหาเตียงนอนที่มีใครสักคนนอนอยู่บนเตียงนั้นภายในห้องทดลอง และตัดจบมาที่ภาพของเหล่า F4 ที่ยืนมองเสาพลังและซากเครื่องบินที่ติดอยู่ในภายในนั้นเตรียมดูหนังแบบมันๆกันเลย

Fantastic Four (2015)

ซึ่งโดยจากตัวละครใน The Fantastic Four ภาคก่อนๆ เราจะเห็นได้ว่า ทีมเก่าจะดูเป็นผู้ใหญ่กว่าทีมใหม่ เนื่องจากผู้กำกับต้องการรีบูตสไตล์หนัง ให้เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นและผู้ใหญ่ เขาจึงต้องคัดนักแสดงที่มีอายุใกล้เคียงระหว่างวัยรุ่นกับผู้ใหญ่ที่สุด (แต่สำหรับป๋าคริส ดูยังไงก็ยังเร้าใจ และเป็นฮีโร่มาจนถึงทุกวันนี้)

นอกจากนี้  “Fantastic Four (สี่พลังคนกายสิทธิ์)” ในเวอร์ชั่นใหม่นี้ยังได้ผู้เขียนบทฝีมือเก๋าอย่าง ไซมอน คินเบิร์ก หนึ่งในทีมเขียนบท X-Men: Days of Future Past มารับหน้าที่เขียนบทให้ด้วย รับรองว่าไม่ทำให้แฟนๆ หนังผิดหวังอย่างแน่นอน ร่วมลุ้นระทึกสุดมันไปกับหนังแนวแอ็กชั่นไซไฟกันได้แล้ว ดูหนังในวันที่ 13 สิงหาคม 2558 นี้ ได้ทุกโรงหนัง