The Red Turtle 2017

The Red Turtle แอนิเมชั่นเรื่องล่าสุดจากสตูดิโอจิบลิ ที่มีผลงานโด่งดังจาก Princess Mononoke, Spirited Way,The Wind Rises, When Marine Was There จะกลับมาสร้างความประทับใจให้แก่ผู้ชมอีกครั้ง กับความงดงาม ความพลิ้วไหว ลายเส้นอันสวยงามเรียบง่ายและแตกต่างออกไปจากเดิม เนื้อเรื่องที่เต็มไปด้วยข้อคิด เงียบงันแต่ทรงพลังมหาศาล โดยไม่มีบทพูดโดยใช้ภาพและเสียงในการเล่าเรื่อง พิสูจน์ความยอดเยี่ยมมาแล้วด้วยการเปิดตัว ณ เทศกาลดูหนังนานาชาติ เมืองคานส์ประเทศฝรั่งเศส ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามและจัดให้เป็นหนังแอนิเมชั่นที่ได้รับคะแนนระดับ A+ ซึ่งเป็นผลงานจากความร่วมมือระหว่างสตูดิโอจิบลิและทีมงานจากประเทศฝรั่งเศส ด้วยฝีมือผู้กำกับดีกรีรางวัลออสการ์ชาวเนเธอร์แลนด์อย่าง ไมเคิล ดูด็อค เดอ วิท อนิเมชั่นเรื่องใหม่จากค่ายที่หลายคนให้ความไว้วางใจว่าจะไม่มีทางได้รับความผิดหวังอย่างแน่นอน กับสตูดิโอจิบลิ ที่ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นจะสูญเสีย Makiko Futaki ไปด้วยวัย 57 ปี ผู้ที่เคยสร้างความสนุกและความประทับใจให้กับเราคนดูมากมาย แม้ว่าหลายคนอาจจะหวาดหวั่นกับเรื่องใหม่นี้บ้าง เพราะเป็นการร่วมงานครั้งแรกระหว่างทางสตูดิโอจิบลิ และผู้กำกับชาวดัทซ์ ไมเคิล ดูด็อค เดอะวิท ที่เคยได้เข้าชิงรางวัลจากอนิเมชั่นเรื่องสั้นเรื่อง Father and Daughter  แต่ดูเหมือนว่ามันจะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เพราะตัวแอนิเมชั่นได้รับเสียงชมอย่างล้นหลามในงานเทศกาลหนังเมืองคานส์ อยู่ในระดับเอบวกกันเลยทีเดียว

ดูหนังออนไลน์ The Red Turtle 2017 เต็มเรื่อง
ชื่อภาพยนตร์
The Red Turtle 2017
ผู้กำกับ
Michael Dudok de Wit
นักแสดงนำ
Michael Dudok de Wit (เขียนเนื้อเรื่อง)
ประเภท
,
เข้าฉาย
N/A
NA/ 10

หนัง The Red Turtle

เรื่องย่อของการ์ตูนเรื่อง The Red Turtle (2017)

The Red Turtle บอกเล่าเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่ติดอยู่บนเกาะร้างแห่งหนึ่งด้วยความโดดเดี่ยว ในทุกวันเขาก็พยายามทุกวิถีทางที่จะออกจากเกาะแห่งนี้ให้ได้ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาพบเจ้าเต่าสีแดงตัวหนึ่งที่เขาจำมันได้ว่ามันคือเต่าตัวเดียวกันกับที่เคยทำให้แพของเขาล่ม ที่มากไปกว่านั้นคือเขาพบว่าเจ้าเต่าสามารถกลายเป็นผู้หญิงได้ และเธอก็กลายมาเป็นเสมือนเพื่อน กับความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะงดงามและงอกเงยขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางสายลมแสงแดด และมิตรภาพอันอบอุ่น บอกเล่าถึงเรื่องราวของ ชายหนุ่มผู้มีชะตากรรมพลิกผัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุเรือล่มจากเหตุการณ์พายุพัดโหมกระหน่ำ เขาหมดสติเมื่อจมน้ำ แต่โชคยังดีที่เขายังมีชีวิตรอด หลังจากหมดสติไปเขาตื่นขึ้นมาด้วยความหนาวเหน็บและเจ็บแสบตามผิวหนัง มีแสงแดดสาดส่องมีที่ดวงตาที่กำลังเปิดขึ้นอย่างช้าๆ เขารู้ตัวแล้วว่าเขายังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตาม ณ ที่แห่งนี้คือเกาะร้าง ไม่มีใครเลยนอกจากตัวเขา เขาต้องเผชิญชะตากรรมนี้เพียงลำพัง ด้วยการออกไปจากเกาะร้างแห่งนี้ เขาพยายามทำทุกอย่าง เขาไปในป่าหาไม้และสิ่งต่างๆที่พอจะต่อเรือออกไปได้ด้วยความพยายาม ถึงแม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวน ความเหนื่อยล้า และความหิวโหย ภารกิจครั้งนี้ไม่ได้สำเร็จภายในวันเดียว การมีชีวิตอยู่อย่างอ้างว้างเดียวดาย ทำให้เขาได้ทบทวนสิ่งที่ผ่านมามากขึ้น และหวังว่าหากออกไปจากเกาะร้างแห่งนี้ได้ จะขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ และวันที่รอคอยก็มาถึง เขาต่อเรือไม้ไผ่สำเร็จ และพร้อมที่จะล่องมันออกไป แต่แล้วเมื่อออกเดินทาง เขาได้พบกับเต่ายักษ์สีแดง ที่ว่ายน้ำใกล้เข้ามา เขาตกใจและหวาดกลัวเพราะไม่เคยพบเต่าที่มีลักษณะเช่นนี้ เขาจะรู้หรือไม่ ว่าการพบกันครั้งนี้จะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง

The Red Turtle เต็มเรื่อง

คุณอาจจะต้องเผชิญเรื่องราวทั้งดีและร้ายตามลำพังในแต่ละช่วงเวลาที่ต่างกัน แต่เชื่อเถอะว่าทุกวิกฤติที่เข้ามาเป็นเหมือนบททดสอบจิตใจ ที่จะมาช่วยเติมเต็มความหวัง ความฝัน ประสบการณ์และสิ่งดีงาม ที่คุณอาจเคยมองข้ามไป The Red Turtle เต่าสีแดงที่ปรากฏตัวท่ามกลางความสิ้นหวังของชายคนหนึ่ง อาจกำลังบอกบางสิ่งให้ผู้ชมได้รับรู้ว่า ไม่ว่าจะสูญเสียและหมดกำลังใจมากแค่ไหน ยังมีกำลังใจมากมายที่คอยโอบอุ้มจิตใจอันบอบช้ำอยู่โดยที่คุณอาจไม่รู้ ขอให้คุณเดินต่อไปด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธาในตัวเอง จนคุณอาจจะต้องหลั่งน้ำตาให้กับความพยายามที่คุณได้ต่อสู้กับเรื่องราวมากมายที่ผ่านมาในชีวิต นอกเหนือจากเรื่องราวที่จะแสนอบอุ่นตามสไตล์ของสตูดิโอจิบลิแล้ว สิ่งที่แปลกไปของเรื่องนี้คือลายเส้นตัวการ์ตูนที่ดูจะแปลกตากว่าทุกครั้ง แต่ก็ยังเป็นความงดงามที่โดดเด่นอยู่ดี ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าลายเส้นของสตูดิโอจิบลิจะมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร จะมีความอ่อนช้อยนุ่มนวลอยู่ในตัว และยังเป็นสตูดิโอที่สามารถเล่นกับตัวละครและธรรมชาติได้อย่างกลมกลืนมากทีเดียว เรียกว่าผสานมนุษย์กับสายลมแสงแดดแล้วตกผลึกมาเป็นความอบอุ่นน่าดูนุ่มนวลได้อย่างเหลือเชื่อ อีกสิ่งหนึ่งคืออนิเมชั่นเรื่องนี้ไม่มีบทพูดเลย แต่จะใช้เสียงต่างๆ เข้ามาช่วยส่งเสริมให้หนังดำเนินเรื่องไปพร้อมกับภาพพลิ้วไหวลายเส้นเด่นเป็นเอกลักษณ์ได้โดยที่คนดูยังคงเข้าใจ ประหนึ่งดูมิวสิควิดิโอ   เชื่อว่านี่คงเป็นแอนิเมชั่นอีกเรื่องหนึ่งเลยที่ใครหลายคนเฝ้ารอที่จะได้ดู ส่วนหนึ่งด้วยเพราะมันคืออนิเมชั่นจากค่ายสตูดิโอจิบลิ และอีกส่วนหนึ่งแค่ตัวอย่างก็ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและเติบโตไปพร้อมๆกับตัวละคนในภาพยนตร์ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่สตูดิโอจิบลิไม่เคยลืมเลือน ไม่ว่าจะสร้างเรื่องไหนก็ตาม และเชื่อว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ที่จะสร้างความประทับใจให้กับคนดูได้ติดตามตัวละครไปจนจบเรื่องอย่างแน่นอน