The Wave

The Wave จุดเริ่มต้นของเต็มเรื่องนี้มาจากการที่นักวิทยาศาสตร์นอร์เวย์นั้นทำนายว่าเหตุการณ์สึนามิครั้งรุนแรงนั้นจะเกิดขึ้นอีกครั้งแน่นอน หลังจากที่มันเคยเกิดมาแล้วในปี 1905 เพียงแต่ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเมื่อไหร่เวลาไหนที่มันจะเกิดเท่านั้นเองการทำนายนี้เป็นแรงบันดาลใจให้รอร์ ออทัก ผู้กำกับชาวนอร์เวย์หยิบมาเป็นพลอตเขียนบทดูหนังเรื่องนี้ โดยผสมผสานความตื่นเต้นระทึกใจเหมือนดังเช่นดูหนังภัยพิบัติของฮอลลีวูดเข้าไปให้ดูสนุกยิ่งขึ้น ส่วนนักแสดงนั้นได้ คริสโตเฟอร์ โจนเนอร์มารับบทนำ ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นหน้าเขาหากได้ชมเต็มเรื่อง Revenant มาแล้ว

ดูหนังออนไลน์ The Wave เต็มเรื่อง
ชื่อภาพยนตร์
The Wave
ผู้กำกับ
รอร์ อูธัก
นักแสดงนำ
คริสโตฟเฟอร์ โยเนอร์, อนี ดาห์ล ทอร์ป, โจนาส ฮอฟ ออฟเทบรู, Edith Haagenrud-Sande
ประเภท
เข้าฉาย
28 สิงหาคม 2015
6.7/ 10

เนื้อเรื่องของหนังดีน่าดู The Wave

The Wave เป็นเรื่องราวของนักวิทยาศาสตร์นามว่าคริสเตียน ที่ค้นพบว่าภัยพิบัติร้ายกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า จากการที่เขาเข้าไปสำรวจการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาที่เกิดขึ้น คริสเตียนมีเวลาเพียงไม่นานที่จะต้องรักษาครอบครัวตัวเองให้รอดชีวิต ไม่เพียงเท่านั้น เขายังต้องช่วยรักษาผู้คนที่อาศัยอยู่ที่เมืองที่กำลังจะเกิดภัยพิบัติเมืองนี้ด้วย มิเช่นนั้นแล้ว โศกนาฎกรรมครั้งนี้จะถือเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่เลยทีเดียว

ดูหนัง The Wave

หนังเรื่องนี้น่าดูเต็มเรื่องแค่ไหน

ดูหนังถูกส่งเข้าชิงรางวัลออสการ์เพียงแต่ไม่มีชื่อใน 5 ลำดับสุดท้าย โดยการเล่าเต็มเรื่องเป็นสไตล์หนังภัยพิบัติจากฮอลลีวูด เน้นความสนุกสนานตื่นเต้น ซึ่งน่าจะถูกใจคอดูหนังระทึกหลายๆคน แม้ว่าบทหนังอาจจะไม่ได้แปลกใหม่มากนัก แต่เชื่อว่าน่าจะเป็นอีกรสชาติที่แปลกออกไป เพราะถึงหนังจะใช้สไตล์ออลลีวูด แต่เชื่อว่าอย่างไรก็ต้องมีแนวคิดแบบนอร์เวย์เป็นหลักอยู่ดี อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคืองานออกแบบภาพ เพราะเป็นหนังเกี่ยวกับภัยพิบัติ หากจะสมจริงงานด้านภาพนั้นต้องอลังการมากทีเดียว ปกติในประเทศไทยเราอาจจะไม่ได้ดูหนังที่มาจากนอร์เวย์บ่อยนัก ก็ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ดูงานการกำกับจากประเทศอื่นที่นอกเหนือจากฮอลลีวูดบ้าง ส่วนตัวบทนั้นได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงคือเหตุการสึนามิที่เคยเกิดขึ้น หากเป็นคนนอร์เวย์อาจจะค่อนข้างอิน แต่ไม่ได้หมายความประเทศไทยจะไม่อิน เพราะประเทศไทยเราก็เคยมีโศกนาฏกรรมทางภัยพิบัติจากสึนามิ ซึ่งสร้างความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินเช่นเดียวกัน เชื่อว่าน่าจะเข้าถึงอารมณ์ได้ไม่ยาก นอกจากนั้นบทหนังเองยังเล่นกับความกดดัน คือการเอาตัวรอดภายใต้เวลาที่จำกัดอีกด้วย เรียกความระทึกตื่นเต้นลุ้นกันน่าดู ก็ถือว่าเป็นหนังภัยพิบัติจากประเทศที่น่าสนใจระดับหนึ่ง อย่างน้อยหนังก็ต้องดีพอในระดับที่จะสามารถส่งไปประกวดออสการ์ได้ก็แล้วกัน ใครที่ชอบดูหนังแนวนี้น่าจะลองไปสัมผัสกันเสียหน่อยว่าเป็นอย่างไร