วิจารณ์ภาพยนตร์เรื่อง Blackhat
เปิดหน้าฉากอีกบทบาทหนึ่งก่อนจะเข้าสู่บทธอร์เทพเจ้าในปีหน้า กับป๋า คริส ที่เคยโด่งดังกับบทต่างๆมาแล้วมากมาย แต่ที่เราคุ้ยเคยกันมากที่สุดก็บทของธอร์ เทพเจ้าสายฟ้านั่นเอง ครั้งนี้เขากลับมาในมาดบทบาทของแฮกเกอร์ เพื่อตามหาเหล่าผู้ก่อเรื่องราวและแฮกข้อมูลลับไป โลกตกอยู่ในภาวะอาชญากรรมออนไลน์ สถาบันการเงินและตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก 4 แห่งถูกมือดีแฮคข้อมูลจนเม็ดเงินร่วงอย่างคาดไม่ถึง ทำให้เรื่องราวไปถึงมือของนิโคลัส แฮททาเวย์ แฮกเกอร์อาชญากรระดับเทพ อัจฉริยะด้านรหัส จากมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง MIT ได้รับการพักโทษให้มาช่วยเหลือรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาและจีน เพื่อตามล่าเครือข่ายอาชญากรปริศนาบนโลกไซเบอร์ นิโคลัสต้องไล่ล่าหาตัวเครือข่ายของอาชญากรนี้ และจัดการกับเหล่าแฮคเกอร์ข้ามชาติพวกนี้ให้ได้ เพื่อแลกกับการลดหย่อนโทษจำคุก 15 ปี จากการโจรกรรมข้อมูลในอดีต
ตัวหนังค่อนข้างดำเนินเรื่องแบบเล่าเปรยมาก่อน ถึงแม้ว่าจะดูแล้วไม่งงมากแต่บางฉากก็ยังไม่เข้าที่เข้าทาง เรื่องที่ดีที่สุดก็คือ โลเคชั่นสวยมากและนักแสดงก็แสดงได้ยอดเยี่ยม มีการถ่ายทำในประเทศต่างๆ ซึ่งก็ทำการผูกเรื่องได้ดี แม้ว่าบางฉากอาจจะไม่เชื่อมกันก็ตาม โดยเรื่องราวจะเป็นเรื่องของการสืบค้นตัวแฮกเกอร์ แต่ในหนังไม่ค่อยมีแรงดึงดูดหรือแรงขับเคลื่อนในการเป็นตัวแฮคเกอร์มากนัก เรียกได้ว่าพระเอกทำหน้าที่เหมือนกับตำรวจสืบหาตัวร้ายและเรื่องก็จบง่ายเกิน ทำให้จุดเด่นหรือจุดพีท ไม่ถึงที่สุด
คะแนนของหนังเรื่อง Blackhat 7/10
