หลายเรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้ของ “Ghost in the Shell”

หลายเรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้ของ “Ghost in the Shell”

ตั้งแต่ที่ค่าย Paramount Pictures ประกาศว่าจะสร้างภาพยนตร์เรื่อง “Ghost in the Shell” ที่ดัดแปลงมาจากมังงะญี่ปุ่นชื่อดังของ Masamune Shirow ที่โด่งดังไปทั่วโลกนี้ ก็ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ออกมาไม่หยุดหย่อน ไม่ว่าจะเป็นการประกาศแคสติ้งที่ได้นักแสดงสาวจากฮีโร่ทีม Avengers อย่าง Scarlett Johansson มารับบทนำเป็น The Major / Motoko Kusanagi ก็ทำให้แฟนๆ มังงะหลายคนขัดอกขัดใจกันไป เพราะไม่ใช่นักแสดงชาวเอเชียที่ตรงกับในเนื้อเรื่องอย่างที่พวกเขาคิดไว้ หรือจะเป็นการที่มีนักแสดงชาวเอเชียในเรื่องนี้จำนวนน้อยเหลือเกิน จนโปรเจคยักษ์เรื่องนี้ถูกนำไปโยงเข้ากับประเด็นอันร้อนแรงอย่าง Hollywood so white ซึ่งเป็นประเด็นการเหยียดผิว ที่นักแสดงนำในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ต่างๆ มักจะเป็นนักแสดงผิวขาวเป็นส่วนใหญ่ โดยที่นักแสดงผิวดำและเชื้อสายเอเชียมักจะได้รับบทร้าย หรือบทตัวรองเท่านั้น

แต่ผู้กำกับ Rupert Sanders ก็ได้ออกมาปฏิเสธในประเด็นนี้พร้อมกับบอกเหตุผลของการคัดเลือกนักแสดงของเรื่องว่า ทางทีมงานได้ปรึกษาหารือกับเจ้าของลิขสิทธิ์จากญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด และนักแสดงแต่ละคนนั้นก็เหมาะสมกับบทบาทในฉบับภาพยนตร์นี้ ซึ่งการดัดแปลงจากมังงะมาเป็นภาพยนตร์นั้นก็จำเป็นที่จะต้องทำให้เป็นสากลและเข้าใจได้ง่ายขึ้นนั่นเอง แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยได้อ่านหรือทำความรู้จักกับมังงะเรื่องนี้มาก่อน วันนี้เราก็ได้รวมเอาเรื่องน่ารู้ที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้เกี่ยวกับ  “Ghost in the Shell” มาให้เราได้อ่านกัน ก่อนจะเข้าไปตื่นตาตื่นใจกับเนื้อหาเต็มๆ ในโรงภาพยนตร์

The Matrix ที่มีกลิ่นอายของ “Ghost in the Shell”

รู้หรือไม่ว่าภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง The Matrix ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแอนิเมชั่นของ “Ghost in the Shell” โดยโปรดิวเซอร์ของ The Matrix ได้ดูแอนิเมชั่นเรื่องนี้แล้วชื่นชอบไอเดียเกี่ยวกับเครื่องจักรกล หุ่นยนต์อัจฉริยะ สมองกลที่สามารถทำงานได้เทียบเท่ามนุษย์ รวมถึงโลกแห่งอนาคตที่เต็มไปด้วยการก่ออาชญกรรมทางเทคโนโลยี พวกเขาจึงนำเอาแรงบันดาลใจเหล่านี้ไปสร้างเรื่องราวใน The Matrix อย่างที่เราได้เห็นกัน

มี “ผี” ที่ไม่ใช่ผี

แม้ชื่อเรื่องจะมีคำว่า “ผี” หรือวิญญาณอยู่ แต่เนื้อเรื่องกลับไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ กับเรื่องราวลึกลับชวนให้สยองขนหัวลุกแต่อย่างใด เพราะคำว่า “ผี” หรือ Ghost ในชื่อเรื่องนี้หมายถึง “จิตวิญญาณ” ที่เกิดขึ้นมาโดยบังเอิญระหว่างที่มีการใช้งานหุ่นยนต์ไซบลอคกับมนุษย์ร่วมกัน จิตวิญญาณนี้จึงเกิดขึ้นมาภายใต้เกราะโลหะของหุ่นยนต์ คล้ายจะเป็นจิตวิญญาณของมนุษย์แต่เติบโตขึ้นมาในร่างกายของหุ่นยนต์แทน

The Major / Motoko Kusanagi เป็น LGBTQ

ถึงแม้ว่าจะถูกกำหนดให้อยู่ในร่างหุ่นยนต์ที่เป็นเพศหญิง แต่ The Major / Motoko Kusanagi ก็ไม่ได้ชอบแต่เฉพาะเพศชายเท่านั้น เพราะหัวหน้าทีมผู้แข็งแกร่งคนนี้มองข้ามเรื่องเพศสภาพไป และชื่นชอบบุคคลที่จิตใจของพวกเขามากกว่า ดังนั้น The Major จึงรักกับใครหรือเพศไหนก็ได้ยังไงล่ะ

บางทีนี่ก็นึกว่าการ์ตูนตลก

“Ghost in the Shell” แน่นอนว่าคือมังงะแนว Fantasy / Sci-fi พร้อมด้วยอาชญากรรม บางคนอาจจะนึกว่าเนื้อเรื่องต้องเต็มไปด้วยความหนักหน่วง อลังการด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ ซึ่งนั่นก็บอกได้เลยว่าใช่ แต่เมื่ออ่านอย่างต่อเนื่องแล้วคุณจะพบว่า เนื้อเรื่องไม่ได้หนักหนาสาหัสขนาดนั้น บางทีเหล่าสมาชิกใน Section 9 ยังเล่นตลกให้คนอ่านขำก๊ากอยู่บ่อยๆ เพราะนอกเหนือจากเวลางานแล้ว พวกเขาแต่ละคนก็ไม่ค่อยใช้ชีวิตจริงจังอะไรมากนัก และดูเหมือนว่าจะเอาสาระอะไรกับพวกเขามากไม่ได้ด้วย จนนักอ่านบางคนถึงกับเปรยๆ ว่า Section 9 ถ้าไม่ออกตามล่าผู้ร้ายหรือสืบคดีแล้ว พวกเขาก็คือคณะตลกดีๆ นี่เอง

เรื่องนี้ก็มีภาคขยายนะ

ใครที่อยากจะทำความรู้จักกับ The Major / Motoko Kusanagi ก่อนไปเจอกับเธอใน “Ghost in the Shell”  ก็สามารถไปหางานแอนิเมชั่นที่ชื่อ Ghost In the Shell: Arise มาดูกันก่อนได้ โดยจะเป็นเรื่องราวของ Motoko Kusanagi ในช่วงเวลาก่อนที่เธอจะเข้าประจำการที่ Section 9 หญิงสาวเคยทำงานเป็นสายลับให้กับองค์กร 501 มาก่อนและที่นั่นทำให้เธอได้รู้จักกับ Daisuke Aramaki และ Batou ก่อนที่จะได้ร่วมงานกันอีกครั้งใน Section 9 หรือใครที่อยากรู้ไปถึงวัยเด็กของตำรวจไซบลอคคนนี้ก็ยังมีแอนิเมชั่น Ghost in the Shell: Stand Alone Complex season 2 ให้ได้ติดตามกันต่ออีก รับรองได้ว่าถ้าหามาดูครบทั้ง 2 อย่างแล้วคุณจะเข้าไปสู่จักรวาลของ “Ghost in the Shell” ได้อย่างไม่มีข้อสงสัยใดๆ เลย

ก็ต้องมาติดตามกันต่อไปว่าโปรเจคยักษ์โปรเจคนี้ของค่าย Paramount Pictures จะสามารถสร้างรายได้ตามเป้าที่ทางค่ายวางเอาไว้ได้หรือไม่ ส่วนแฟนๆ มังงะของเรื่องนี้ที่รอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อที่จะได้เห็นงานที่พวกเขารักในรูปแบบของ Live – Action ก็เตรียมตัวให้พร้อมไปพบกับ “Ghost in the Shell” กันได้ในวันที่ 30 มีนาคมนี้ในโรงภาพยนตร์ งานนี้ผู้กำกับขอเชียร์ให้ไปดูกันในแบบ 3D, Real 3D หรือ IMAX 3D เพื่อจะได้ดื่มด่ำกับงานเทคนิค CG ที่งานนี้เรียกได้ว่าทุ่มทุนสร้างกันอย่างไม่ยั้ง แฟนๆ มังงะได้ฟินสมใจกันอย่างแน่นอน