“Beauty and the Beast” เวอร์ชั่น 2017 เซอร์ไพร์สคนดูด้วยการเปิดเผยตัวละครที่เป็นเกย์

“Beauty and the Beast” เวอร์ชั่น 2017 เซอร์ไพร์สคนดูด้วยการเปิดเผยตัวละครที่เป็นเกย์

กลายเป็นข่าวใหญ่ในโลกภาพยนตร์ที่ทำเอาหลายคนแทบจะไม่เชื่อกันเลยทีเดียว กับการออกมาประกาศจากทางสตูดิโอ Disney ผู้สร้างภาพยนตร์เทพนิยายสุดคลาสสิคอย่าง Beauty and the Beast หรือโฉมงามกับเจ้าชายอสูร ว่าในเวอร์ชั่น 2017 ที่เป็นฉบับ Live –Action นี้จะมีหนึ่งในตัวละครของเรื่องที่มีรสนิยมทางเพศแบบชายรักชาย หรือเป็นเกย์อยู่ในภาพยนตร์เวอร์ชั่นนี้อย่างแน่นอน ซึ่งแตกต่างจากต้นฉบับแอนิเมชั่นในปี 1991 ที่ไม่มีตัวละครใดเป็นเพศทางเลือกปรากฏตัวอยู่ในเรื่องเลย ทั้งนี้ทางสตูดิโอ Disney ได้ให้เหตุผลว่า ต้องการส่งเสริมความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศในสังคมปัจจุบันนั่นเอง

 

Le Fouซึ่งตัวละครที่ว่านั้นก็คือ Le Fou เพื่อนสนิทของ Gaston ที่รับบทโดย Josh Gad และนักแสดงหนุ่มผู้รับบทนี้ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทชายรักชายที่เขาได้รับในเรื่องนี้ว่า เขารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มเพศทางเลือกในภาพยนตร์เรื่องนี้ ความรักควรเป็นสิ่งสากลที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเชื้อชาติ ทุกภาษา เขาไม่เห็นด้วยกับการจะมานั่งแบ่งแยกว่าเพศไหนควรรักกับเพศไหน และตัวละคร Le Fou ในเรื่องนี้ก็จะทำให้คนดูเข้าใจถึงความรักที่เขามีต่อ Gaston ว่าเป็นความรักที่บริสุทธิ์และสวยงามมากแค่ไหน และเขาเข้าใจว่าคงจะมีแฟนๆ บางส่วนไม่พอใจกับการเปลี่ยนแปลงบทบาทของ Le Fou ในครั้งนี้ แต่สำหรับเขาแล้ว Le Fou ในเวอร์ชั่น 2017 นี้ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากปี 1991 เพราะ Le Fou นั้นเทิดทูนและเชื่อมั่นในตัว Gaston อย่างไม่มีข้อสงสัย และยอมทำตามคำสั่งทุกอย่างโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ การที่ใครคนหนึ่งจะยอมให้อีกคนทุกอย่างขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่ด้วยความรักแล้วก็คงจะมองเป็นอย่างอื่นอีกไม่ได้ ดังนั้นสำหรับเขาแล้วสิ่งที่ Le Fou ในปี 2017 แตกต่างจากปี 1991 ก็คือเขาก็แค่บอกกับคนดูว่าเขาเป็นเกย์อย่างชัดเจนก็แค่นั้นเอง

โดยหลังจากที่ประกาศข่าวออกมาอย่างนี้แล้ว แฟนๆ ของ Beauty and the Beast บางส่วนก็แสดงความไม่พอใจออกมาทันที บางความคิดเห็นบอกว่าการตัดสินใจทำแบบนี้ของ Disney เป็นการทำลายเทพนิยายสุดคลาสสิคและจินตนาการของเด็กๆ ทั่วโลก รวมถึงยังได้ทำลายความงดงามของเรื่องนี้ลงอย่างสิ้นเชิง แต่ก็ใช่ว่าจะมีเสียงคัดค้านออกมาอย่างเดียว เพราะอีกด้านหนึ่งก็มีคนออกมาแสดงความชื่นชมในความกล้าหาญของสตูดิโอในครั้งนี้ ที่เปิดโอกาสให้เพศทางเลือกอื่นๆ มีบทบาทในเรื่องราวเทพนิยายมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะยิ่งเป็นการส่งเสริมความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศมากยิ่งขึ้น และยกย่องว่าภาพยนตร์เรื่องนี้คือเทพนิยายสำหรับทุกคนในโลกอย่างแท้จริง เพราะไม่มีการแบ่งแยกเพศ เชื้อชาติ หรือภาษาใดๆ

ถึงแม้กระแสการตอบรับจากแฟนๆ จะยังมีทั้งสนับสนุนและไม่พอใจปะปนกันอยู่ แต่สำหรับโรงภาพยนตร์ในบางประเทศนั้น หลังจากที่ได้รู้ถึงการมีตัวละครเกย์อยู่ในเรื่องนี้แล้ว ก็ได้ทำการถอดเรื่องนี้ออกจากแผนการเข้าฉายทันที และในบางประเทศยังได้ทำการแบนภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ให้เข้าฉายอีกด้วย ก็ต้องมาลุ้นกันว่าความกล้าของสตูดิโอ Disney ในครั้งนี้จะทำให้โฉมงามและเจ้าชายอสูรปี 2017 นี้ออกหัวหรือออกกก้อยกันแน่ แต่สำหรับประเทศไทยนั้น แฟนๆ สบายใจกันได้ เพราะ Beauty and the Beast ยังคงมีกำหนดเข้าฉายตามปกติในวันที่ 16 มีนาคมนี้ อย่าลืมเข้าไปพบกับการตีความใหม่ของ Le Fou กันได้ในโรงภาพยนตร์พร้อมกันทั่วประเทศ