Fifty Shade Darker ความลับอันดำมืดที่น่าค้นหาของมิสเตอร์เกรย์

Fifty Shade Darker ความลับอันดำมืดที่น่าค้นหาของมิสเตอร์เกรย์

Fifty Shade Darker เป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องมาจากหนังภาคแรก เมื่อแอนาสเตเซียตัดสินใจออกห่างจากมิสเตอร์เกรย์เพราะทั้งสองไม่อาจจะปรับจูนและ สนอง ในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการได้ ภาคนี้หนังจึงเริ่มต้นด้วยการที่มิสเตอร์เกรย์พยายามจะงอนง้อขอคืนดีกับฝ่ายหญิงด้วยการส่งดอกไม้ หรือพยายามกว้านซื้อรูปภาพที่เป็นใบหน้าของแอนาสเตเซียด้วยเหตุผลที่ว่าเขาไม่อยากให้คนอื่นมาเชยชมเธอ แม้ว่าหนังภาคนี้จะสร้างเงื่อนไข อุปสรรคความรักเข้ามาในชีวิตของทั้งสองไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเจ้านายโรคจิตที่หวังจะแอ้มแอนาสเตเซีย, บ่าวคนเก่าของมิสเตอร์เกรย์ หรือกระทั่งนายหญิงคนแรกของมิสเตอร์ที่ทำให้เขารู้จักโลกแบบเจ็บๆเป็นครั้งแรกที่เข้ามาระรานชีวิตคู่ของทั้งสอง ก็ดูจะไม่ได้เป็นปมที่วุ่นวายเท่าไหร่นัก เผลอคนดูจะรู้สึกว่าหนังภาคนี้ออกจะโรแมนติก หวานแหว๋วมากกว่าภาคแรกด้วยซ้ำไป คิดว่าคนที่ชอบหนังภาคแรกก็คงจะยังรู้สึกชอบความเพ้อเจ้อ เพ้อฝันในหนังภาคนี้เช่นเคย ส่วนใครที่เกลียดหนังภาคแรก ก็คงจะเกลียดหนังภาคนี้เช่นเคย เพราะท้ายที่สุดแล้วหนังเรื่องนี้เหมือนเขียนบททุกอย่างมาเพื่อเล่าทุกอย่างแบบง่ายๆ จนรู้สึกว่า อีกนิดนึงก็จะเป็นละครแม่ผัวลูกสะใภ้แบบช่อง 7 เข้าไปเต็มทน

ในประเทศไทย Fifty Shade Darker จะถูกเคลมว่าเป็นหนังที่ได้รับเรท ฉ 20+ หรือเป็นหนังที่ผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ห้ามชม แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว เนื้อแท้ของหนังเรื่องนี้ควรเรียกว่ามันเป็นหนังในกลุ่ม Soft Porn ที่แทบจะปราศจากความรุนแรงทางเพศ หรือฉากอิโรติกที่ดูแล้วชวนเกิดอารมณ์ทางเพศอย่างสิ้นเชิง เพราะฉากร่วมเพศในหนังเรื่องนี้แทบจะไม่ได้มีความโจ่งครึ่มหรือปลุกเร้าอารมณ์แบบในหนังเรต R อีกหลายต่อหลายเรื่องที่เข้าฉายในบ้านเราด้วยซ้ำไป ตัวตนของมิสเตอร์เกรย์นั้นยิ่งฉายชัดขึ้นเมื่อเขาเป็นบุคคลประเภทที่ต้องการ “ครอบครอง” และเป็นเจ้าของอีกฝ่ายแต่เพียงผู้เดียว โดยพฤติกรรมดังกล่าวนั้นยังสอดรับกับเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงชอบ “บงการ” ชีวิตของผู้อื่นตลอดเวลา แต่ในขณะเดียวกันการที่เขาหลงรักแอนาสเตเซียจนอยากได้เธอกลับคืนมาสู่อ้อมกอดของตัวเองนั้น ทำให้เขาเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองและเป็นในสิ่งที่ฝ่ายหญิงต้องการนั่นคือการลดตัวตนของเขาลงมา และเป็นในสิ่งที่ฝ่ายหญิงต้องการ