มาทำความรู้จักตึกสาทร สถาณที่สำคัญของหนังเรื่องเพื่อน.. ที่ระลึก

มาทำความรู้จักตึกสาทร สถาณที่สำคัญของหนังเรื่องเพื่อน.. ที่ระลึก

เว็บไซต์ Dnung จะพาคุณมาทำความรู้จึกตึกสาทรสถาณที่ถ่ายทำหนังเรื่อง เพื่อน.. ที่ระลึก หากย้อนกลับไปเมื่อช่วงปลายปีพุทธศักราช 2557 หลายคนยังคงจำเรื่องราวสุดสยองนัดตึกร้างย่านสาทรในกลางเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครกันได้บ้างใครจะไปคิดกันละว่าการถ่ายภาพในวันนั้นของตากล้องหนุ่มจะกลายเป็นเรื่องสุดสะพรึงที่ทำเอาคนกรุงภาวะไปต่างๆกัน

ตึก 1

วันนี้เราจะพาทุกท่านมาย้อนเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตึกร้างสาทรกลายเป็นตำนานสยองกลางกรุงในวันนั้นกันครับสาทรยูนิคทาวเวอร์ก่อสร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2533 เป็นอาคารร้างที่ก่อสร้างไม่เสร็จถูกออกแบบโดยนายรังสรรค์ต่อสุวรรณสถาปนิกชื่อดังของไทย ตึกมีความสูง 47 ชั้นสร้างขึ้นเพื่อประกอบธุรกิจคอนโดหรูใจกลางเมืองในช่วงแรกเปิดตัวด้วยทำเลที่มีศักยภาพและการลงทุนที่มั่นคงทำให้สาทรยูนิคทาวเวอร์เป็นที่จับตามองของนักลงทุน และผู้สนใจไปในทันทีแต่เรื่องราวกลับมาพลิกผันเมื่อปีพุทธศักราช 2535 นายรังสรรค์ต่อสุวรรณสถาปนิกชื่อดังเจ้าของโครงการถูกจับกุมในข้อหาจ้างวานฆ่าประธานศาลฎีกานายรังสรรค์ถูกศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุก 25 ปีและภายหลังได้พ้นโทษในปีพุทธศักราช 2551 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การก่อสร้างตึกดังกล่าวต้องหยุดชะงักลง

ตึก 2

นอกจากเรื่องคดีที่เกิดขึ้นกับสถาปนิกแล้วเรื่องของเศรษฐกิจตกต่ำวิกฤตต้มยำกุ้งในปีพุทธศักราช 2540 ก็ทำให้โครงการสาทรยูนิคทาวเวอร์ได้รับผลกระทบในเรื่องนี้ด้วยเช่นกันจึงทำให้การก่อสร้างอาคารดังกล่าวต้องหยุดชะงักลงทั้งที่ก่อสร้างเสร็จไปแล้วกว่า 80% และถูกปล่อยทิ้งร้างมาจนถึงปัจจุบันว่ากันว่าพื้นที่ก่อสร้างตึกหลังนี้เคยเป็นสุสานเก่าแต่อย่างไรก็ตามแม้ในข้อนี้จะยังไม่มีหลักฐานยืนยันอย่างแน่ชัดเกี่ยวกับข้อสันนิษฐานแต่ความเชื่อท้องถิ่นที่ว่ากันว่าบริเวณที่ตั้งของโครงการนั้นคือสุสานเก่าก็ยังมีอิทธิพลกับความรู้สึกของคนงาน และผู้เกี่ยวข้องมีน้อยที่ผสมผสานอยู่กับวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของผู้ที่อาศัยอยู่ในละแวกนั้นก็ยังมีอยู่จนถึงทุกวันนี้

ตึก 3

ในปีพุทธศักราช 2557 เมื่อช่างภาพหนุ่มชาวไทยได้ขึ้นไปถ่ายภาพที่ตึกร้างสาทรยูนิคทาวเวอร์และได้พบกับร่างไร้วิญญาณของชาวต่างชาติที่บริเวณชั้น 43 ของอาคารในสภาพที่มีเชือกรัดคอคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 วันซึ่งภายหลังจากการตรวจสอบ dna ก็เพราะว่าผู้เสียชีวิตนั้นเป็นนักท่องเที่ยวชาวสวีเดนที่ถูกแจ้งว่าเป็นบุคคลสูญหายการค้นพบเรื่องราวสุดสยองบนตึกร้างใจกลางกรุงดูเหมือนจะไม่ได้สร้างความหวาดผวาให้สักเท่าไหร่ตรงกันข้ามกับยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้ในสถานที่นี้ดูมีอะไรน่าค้นหามากกว่าแค่วิวสวยมุมสูงที่ริมน้ำ

ตึก 5

การจะเข้าชมตึกร้างสาทรแห่งนี้ในความเป็นจริงทางเจ้าของสถานที่ไม่ได้อนุญาตให้เดินเข้าไปได้ง่ายๆๆก็มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่ามีคนบางกลุ่มเรียกเก็บค่าเข้าชมสูงถึง 500 บาทต่อคนเลยทีเดียวซึ่งในปัจจุบันท่านเจ้าของตึกได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่าตึกร้างย่านสาทรดังกล่าวห้ามเข้าเมื่อรู้แบบนี้แล้วก็ไม่สมควรที่จะพากันเข้าไปแม้ว่าด้านบนจะมีวิวสวยๆให้ชมกันอย่างถนัดตาแต่ดูเหมือนว่าตึกสูงที่ระเบียงเปิดโล่งไม่มีอะไรเป็นเกาะกั้นระหว่างระเบียงด้านบนกับผิวถนนด้านล่างมีความเสี่ยงอย่างมากที่เดินเดินอยู่จะพลัดตกลงไปไม่มีอะไรรับรองได้เลยว่าคุณจะปลอดภัยในการขึ้นไปบนนั้นอย่าเพิ่งห่วงเรื่องภาพวิวสวยๆเลยความปลอดภัยนะที่นั่นแลดูจะน่ากลัวกว่าเรื่องลี้ลับซะอีกทุกครั้งที่ฝนตกที่นี่จะมีแอ่งน้ำฝนอยู่มากมายไม่น่าแปลกใจถ้าบริเวณนี้จะอุดมไปด้วยเชื้อราและตะไคร่น้ำดูเก่าและเกรอะกรังไม่น้อยแต่รู้กันมั้ยว่าพื้นที่ของตึกร้างสาทรที่ถูกปล่อยให้ดูสุดโทรมแห่งนี้มีราคาค่าที่ดินทั้งหมดอยู่ที่1066 ล้านสองแสนบาทด้วยความที่เป็นตึกร้างไร้การดูแลแถมยังมีพื้นที่กำแพงปูนว่างๆอยู่มากมายจึงทำให้ตึกสาทรยูนิคทาวเวอร์เปรียบได้กับลานแสดงศิลปะของเหล่าศิลปินนักพ่นสี graffiti art ที่จะมาระเบิดความคิดสร้างสรรค์แม้ว่าพื้นที่เหล่านี้จะเป็นพื้นที่หวงห้ามมิให้บุกรุกในยามวิกาลแล้วก็ตามแม้ที่นี่จะมีเรื่องราวชวนขนลุกผิวมากมายแต่ดูเหมือนว่าเรื่องหลอนเหล่านั้นจะกลายเป็นคนละประเด็นกับภาพวิวสวยๆของเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครยอดตึกสูงขนาดนี้สามารถเปิดมุมมองให้เห็นได้แบบ 360 องศาวิวสวยขนาดนี้ก็ไม่แปลกใจที่จะมีคนสนใจแต่ถึงจะสวยขนาดไหนเรื่องความถูกต้องและความปลอดภัยยังไงก็ต้องมาก่อนเสมอกรุงเทพยังมีมุมสวยๆที่น่าเก็บความทรงจำอีกมากมายพื้นที่อันตรายและบรรยากาศชวนขนหัวลุกได้กลับพิชิตหัวใจนักสำรวจจากทั่วทุกมุมโลกได้อย่างน่าประหลาดใจหรือที่นี่จะมีบางสิ่งที่สะกดให้ทุกคนหลงใหลอยู่ก็เป็นได้ หากคุณเป็นคอหนังสยองขวัญไม่ควรพลาดเพื่อน.. ที่ระลึก