รีวิวหนัง The Imitation Game

รีวิวหนัง The Imitation Game
รีวิวหนัง The Imitation Game
รีวิวหนัง The Imitation Game

The Imitation Game หลังจากที่ตัวหนังหนังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ ถึง 8 สาขา รวมถึงยังคว้ารางวัลขวัญใจมหาชนในงานเทศกาลหนังนานาชาติโตรอนโต้ 2014 มาได้อีกด้วย ทั้งนี้ หนังสไตล์เล่าเรื่องชีวประวัติบุคคลสำคัญ ก็ยังคงเป็นแนวที่กวาดรายได้มาอย่างดงาม โดยในครั้งนี้ หนังได้นำเสนอในเรื่องราวของ Alan Turing นักคณิตศาสตร์อัจฉริยะ ผู้ได้รับภารกิจให้ถอดรหัสลับเพื่อหยุดยั้งโศกนาฏกรรมและสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยหนังมีชื่อเรื่องว่า The Imitation Game

จุดเริ่มของเรื่องราวเกิดขึ้นจาก นักคณิตศาสตร์ และนักตรรกศาสตร์ไฟแรงจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ Alan Turing ได้สร้างชื่อเสียงโด่งดังจากการสร้างทฤษฎีรองรับการประดิษฐ์เครื่องคอมพิวเตอร์ ทฤษฎีดังกล่าวได้ถูกนำมาใช้จริงในสงครามระหว่างอังกฤษและอเมริกาในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อกองทัพเรือเยอรมันได้นำเครื่องอีนิกม่ามาใช้ในการส่งข้อความ Alan Turing จึงต้องทำแบบทดสอบของกองทัพอังกฤษเพื่อจะเข้าไปประดิษฐ์เครื่องถอดรหัสโดยใช้ความสามารถของตัวเอง เครื่องมือถอดรหัสที่ Alan ประดิษฐ์ขึ้น ยิ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่เหล่าผู้บังคับบัญชาในกองทัพเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังสร้างความประทับใจให้กับหญิงสาวนาม โจน คลาร์ก ผู้ที่ Alan ขอหมั้นและเตรียมแต่งงานด้วยในเวลาถัดมา แต่ถึงแม้ทุกอย่างจะดูเข้าที่เข้าทาง Alan กลับต้องประสบกับวิกฤติตัวตน เนื่องจากความจริงนั้นเขาเป็นเกย์ ซึ่งในช่วงเวลานั้นถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายและเสี่ยงต่อการถูกลงทัณฑ์เป็นอย่างยิ่ง เขาจึงจำเป็นต้องฝ่าฟันอุปสรรคและเรื่องราวอันน่าอึดอัดนี้ให้ได้ ทั้งสงคราม งานประดิษฐ์ ทฤษฎี และจิตใจของตัวเขาเอง
เนื้อเรื่องของหนังอาจจะส่งบรรยากาศจากตัวอย่างที่ได้ดู ทำให้รู้สึกอึมครึม หม่นๆไปบ้าง แต่ความจริงแล้ว หนังกลับซับซ่อนและบอกเล่าเรื่องราวได้ตรงไปตรงมาอย่างคาดไม่ถึง ทั้งเรื่องของสงคราม การแก้ปัญหา วิทยาศาสตร์และความบ้าคลั่งของอิทธิพล ซ้ำตัวเอกของเรื่อง หรือก็คือ Alan Turing ก็ได้รับบทบาทของ เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบทช์ ที่สามารถเล่นได้อย่างมีชั้นเชิงและเหมือนจริงเลยทีเดียว ทั้งบุคลิกที่ออกบ้างและการเก็บความรู้สึกผ่านทางสีหน้า เท่านั้นยังไม่พอ การดำเนินเรื่องราวและการสื่อสารของภาพ ก็ตัดทอนทำให้ดูเข้าใจง่าย ถึงแม้จะมีบางฉากที่เงียบๆ น่าเบื่อ แต่โดยรวมก็ทำให้เราเข้าใจประวัติและความรู้สึกลึกๆของ Alan Turing ไม่น้อย หนังสื่อถึงเรื่องสงครามและเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด รวมทั้งยุคสมัยของช่วงที่กำลังพัฒนาอุตสหกรรม ทั้งนี้โดยรวมแล้ว ถือเป็นหนังที่ดีอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมถึงได้เข้าชิงรางวัลออสการ์
คะแนนของหนังเรื่องนี้ 9/10