Embrace of the Serpent

Embrace of the Serpent หลายครั้งที่เรานึกถึงป่า เราอาจนึกถึงความสดชื่นและความอุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงสัตว์ป่า นั่นอาจเป็นเพียงมุมมองกว้างๆ ที่เรามองโดยภาพรวม Embrace of the Serpent หนังสัญชาติโคลัมเบีย เป็นหนังที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อกล่าวถึงป่าและจิตวิญญาณของมัน มากไปกว่านั้นคืออารยธรรมของคนในป่าและความลับมากมายยิ่งกระตุ้นให้เราอยากรู้อยากเห็น และเป็นอีกครั้งที่หนังแนวนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ปี 2016 สาขาหนังภาษาต่างประเทศ ยิ่งตอกย้ำถึงความไม่ธรรมดาและความพิเศษของหนังเรื่องนี้ได้อย่างดี การผจญไปที่เต็มไปด้วยความลับและอันตรายถูกรังสรรค์โดยผู้กำกับชื่อ ซิโร่ กูเออร่า ทั้งกำกับและร่วมเขียนบทกับทีมงาน เปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2015 ที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส ต่างได้รับการตอบรับดีเกินคาดสำหรับหนังนอกกระแสที่เต็มเปี่ยมไปไปด้วยพลังแฝง ซึ่งถ่ายทำในหลายประเทศในอเมริกาใต้ในแถบลุ่มแม่น้ำอเมซอน อาทิ เวเนซุเอร่า อาเจนติน่า และ โคลัมเบีย เห็นหน้าหนังหลายคนอาจจะนึกว่าเป็นสารคดีวิถีชีวิตคนป่า ด้วยนักแสดง เนื้อเรื่องและโทนภาพที่ออกมานั้น ชวนให้คิดไปทางนั้นจริงๆ แม้ว่าความจริงแล้วนี่จะเป็นหนังที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณการค้นลึกไปถึงความต้องการในการเป็นมนุษย์ โดยจะเปลี่ยนมุมมองที่เราเคยเชื่อกันมาตลอด เปิดโลกออกกว้างให้คนได้รับรู้ ล้วงเข้าไปถึงความเป็นจริง มิใช่มองเพียงมุมของตัวเองเท่านั้น สำหรับตัวแทนหนังยอดเยี่ยมจากประเทศโคลอมเบีย บนเวทีรางวัลออสการ์  และยังเป็นหนังที่สร้างความฮือฮาให้กับนักวิจารณ์อีกด้วย

ดูหนังออนไลน์ Embrace of the Serpent เต็มเรื่อง
ชื่อภาพยนตร์
Embrace of the Serpent
ผู้กำกับ
ซีโร กูเอร์รา
นักแสดงนำ
ดูผลลัพธ์ที่เกี่ยวกับ, Antonio Bolivar, ยัน บิจวูต , ไบรโอนน์ เดวิส
ประเภท
เข้าฉาย
25 พฤษภาคม 2015
7.9/ 10

เรื่องย่อของหนังดีน่าดู Embrace of the Serpent

Embrace of the Serpent เป็นเรื่องราวที่หยิบเอาบันทึกจริงๆของนักหมอยานามว่า ธีโอดอร์ ครอช กรันเบิร์ก แห่งเผ่าอเมซอน และบันทึกของริชาร์ด เอวาน ชุลเตส หมอยาที่เสาะแสวงหาจนค้นพบยามากมาย โดยเป็นเรื่องราวของธีโอดอร์ วาน เมเธียส ชายผู้เดินทางไปสู่ป่าอเมซอนอย่างสิ้นหวัง ด้วยความต้องการเดียวคือหายจากโรคที่ตนเองกำลังประสบเป็นอยู่ เขาหวังว่าจะได้ข้อมูลเกี่ยวกับพืชปริศนาที่ชื่อว่ายากรูน่า อันเป็นพืชที่เป็นเสมือนความหวังของโลกใบนี้เลยก็ว่าได้ ขณะที่การเดินทางในป่าดิบอย่างนั้นไม่มีอะไรง่ายดาย เพราะความบ้าคลั่งกำลังรอที่จะต้อนรับเขาอยู่ภายในป่าแห่งนั้น เรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อปี 1909 และ 1940 เมื่อโรคร้ายทำให้เขาต้องดิ้นรนต่อสู้กับมัน เขาพยายามมาหลายวิธีแต่สุดท้ายโรคร้ายก็ยังอยู่กับร่างกายของเขาต่อไป ธีโอดอร์ วาน เมเธียส มีความสิ้นหวังและยังหาทางออกไม่ได้ จึงตัดสินใจออกเดินทางเข้าป่า ความหวังเดียวของเขาคือ Yakruna พืชชนิดหนึ่งที่กล่าวกันว่าสามารถรักษาโรคได้ทุกโรค แต่มันคือสิ่งเคารพบูชาของเผ่าคนป่าที่อาศัยอยู่ในแถบแม่น้ำอเมซอน อีกนัยหนึ่งคือพืชศักดิ์สิทธิ์ ผู้ครอบครองคือ จักรพรรดิชาเมน การามากาเต ในขณะเดียวกันเขาถูกท้าทายเพื่อเป็นเจ้าของพืชอันศักดิ์สิทธิ์นี้ จนนำไปสู่สงครามแห่งการแย่งชิงและการแสดงอำนาจ มากไปกว่านั้นพืชชนิดนี้มีความสำคัญต่อกลุ่มพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกด้วย ผู้สิ้นหวังกลับกลายมาเป็นค้นพบและความลับกลางป่าลึกที่เขาเกินกว่าจะเชื่อได้ นอกจากจะได้เห็นกับตาเขายังได้สัมผัสว่ามีโลกอีกโลกหนึ่งที่ยังทับซ้อนอยู่บนโลกใบนี้

หนังเรื่องนี้น่าดูไหม

หนังเรื่องนี้สร้างจากบันทึกของ ริชาร์ด เอวาน ซุลเตส ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงยาและเดินทางเพื่อหาส่วนประกอบยามาแล้วทั่วโลก พร้อมกับการกำกับที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจในทุกฉากทุกตอน ด้วยการแสดงออกทางสีหน้าท่าทาง จนทำให้คุณเชื่อว่าหลุดไปในป่าอสรพิษแล้วจริงๆ นอกจากการเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาหนังภาษาต่างประเทศแล้ว หนังเรื่องนี้ได้รับรางวัลในเทศกาลหนัง Sundance และเทศกาลหนังนานาชาติรอตเทอดัม ถือว่าเกินคาดสำหรับหนังที่ต้องการตีแผ่มุมหนึ่งของชีวิตในป่าลึกที่คนธรรมดายากจะเข้าถึง หากใครได้ดูตัวอย่างแล้วก็คงต้องยอมรับว่างานภาพของหนังนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ  องค์ประกอบต่างๆถูกนำมาใช้เพื่อสื่ออารมณ์ร่วมไปกับบทหนัง ถือเป็นการดึงศักยภาพทุกองค์ประกอบมาใช้ทั้งหมด  กับการเดินทางเข้าไปในป่าที่ทั้งลำบากลำบนใช้เครื่องมือมมากมาย เพื่อให้ได้มาซึ่งยาอันเป็นความหวังว่ามันจะช่วยต่อชีวิตให้ได้ การแสดงให้เห็นแง่มุมในมุมมองที่เป้นความต้องการของคนพื้นที่จริงๆมิใช่ความต้องการในมุมมองของเราที่ต้องการให้เขาเป็น เป็นอะไรที่เชื่อว่าน่าจะมหัศจรรย์มากๆ  นอกจากนักแสดงที่ต้องใช้ฝีมือระดับเทพ เพื่อให้คนดูเชื่อจริงๆแล้ว บทหนัง การดำเนินเรื่อง และภาพต้องออกมาแล้วประกอบเข้ากันได้อย่างลงตัว เพราะไม่อย่างนั้นหนังดีๆ จะพังทลายกลายเป็นตรงกันข้ามทันที แต่ดูเหมือนว่าหนังเรื่องนี้จะนำพาทุกอย่างไปยังจุดหมายปลายทางได้เป็นผลสำเร็จ เพราะไม่อย่างนั้นกระแสของนักวิจารณ์คงไม่ไปในทางบวก และเวทีออสการ์คงไม่อ้าแขนรับ ประเด็นการนำเสนอเรื่อง การที่ท้องถิ่นถูกรุกด้วยความเจริญก็ดูเป็นประเด็นที่ทรงพลังและน่าสนใจ ทั้งในแง่มุมมองของผู้ถูกบุกรุกและผู้ก้าวล้ำเข้าไปด้วย งานนี้ใครชอบหนังที่เต็มไปด้วย จิตวิญญาณอันทรงพลัง ไม่ควรพลาดเรื่องนี้ด้วยประการทั้งปวง