Serena

ดูหนัง

Serena เป็นหนังดราม่าเขย่าขวัญที่น่าดูอีกเรื่องในรอบปีโดยหนังเรื่องSerenaได้พระเอกสุดหล่อ”แบรดลีย์ คูเปอร์”และนางเองแสนสวย”เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์”หลังจากที่ทั้งคู่เคยเล่นประกบคู่กันมาหลายเรื่อง

ในครั้งแรกในหนังโรแมนติกชวนหัวของผู้กำกับเดวิด โอรัสเซลใน Silver Linings Playbook

ล่าสุดคือ”American Hustle ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึง 10 รางวัล”

รีวิวและวิจารณ์ serena

ดูเหมือนกระแสหนังดราม่า จะไม่ค่อยตอบโจทย์กับบ้านเราในช่วงนี้มากนัก หนังที่เพิ่งเข้าฉายมาอย่างเรื่อง serena จึงไม่ค่อยมีคนดูกันเท่าไหร่ แต่สำหรับในต่างประเทศ ถือว่าเป็นหนังที่สื่ออารมณ์ได้ดีเลยไม่น้อย ถ้าใครได้ไปดูหนังเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่า เจนนิเฟอร์ กับแบรดลีย์ ที่เคยผ่านหนังด้วยกันมาก่อน ได้กลับมาร่วมจอหนังโรงกันอีกครั้ง แต่กลับเป็นบทบาทที่ออกจะแสนดราม่าและเจ็บปวดกว่าหนังเรื่องไหนๆ
เรื่องราวจะย้อนกลับไปปี 1929 ในยุคที่เศรษฐกิจตกต่ำ สองสามี-ภรรยาคู่หนึ่ง จอร์จ และ เซเรนา ที่แต่งงานกัน ทั้งคู่ร่วมกันสร้างอาณาจักรและความร่ำรวย แต่แล้ววันหนึ่ง เซเรนา ก็รู้ว่าเธอไม่สามารถมีลูกให้กับ จอร์จ รวมถึง จอร์จ ก็ยังมีภรรยานอกสมรสอีกคนหนึ่งและมีลูกด้วยกันด้วย เซเรนา จึงฆ่าภรรยานอกสมรส เพื่อไม่ให้หล่อนได้สมบัติที่พวกเธอหามาทั้งชีวิตไป จอร์จ พยายามสืบหาคนร้ายที่ฆ่าภรรยานอกสมรสของเขา เขาเริ่มสงสัยถึงตัวเซเรน่า จึงปกป้องลูกของเขาจาก เซเรน่า และเกิดเป็นเรื่องราวสุดดราม่าของมนุษย์ที่ยากจะยอมรับ ทั้งความกดดัน ความน้อยใจของฝ่ายภรรยา
หนังเรื่องนี้ สื่ออารมณ์ในเรื่องของความกดดัน ความเศร้าหมอง และเจ็บปวดได้ดีมาก สื่อให้รู้ได้เลยว่า ภรรยาที่ควรจะเป็นใหญ่แต่ไม่ได้เป็นจะรู้สึกยังไง ความอึดอัดในใจที่สั่งสมมา จนต้องมากลายเป็นบทสรุปที่น่าเศร้า ซึ่งหนังเรื่องนี้สื่ออารมณ์ออกมาได้ดีมากๆ แต่การตัดต่อหนังและการเดินเรื่องค่อนข้างรวบรัดไปหน่อย อาจเป็นเพราะเวลาที่มีจำกัด จึงทำให้หนังย่นเวลาลง อย่างเช่น เปิดจอเข้ามาในช่วงแรก ดำเนินเรื่องไปได้ไม่นาน แต่งงานกันซะแล้ว แป๊ปๆ ฆ่ากันซะแล้ว อย่างนี้เป็นต้น ทำให้หนังดูตัดไปตัดมา แต่ก็ไม่ทำให้ งง หรือสับสนมากนัก บรรยากาศในสมัยก่อนทำออกมาสมจริง และนักแสดงก็ทำให้รู้สึกถึงชีวิตความเป็นอยู่ในสมัยนั้นด้วย ถ้าไม่รวมถึงเรื่องราวเศร้าหมองเจ็บปวด ก็อาจจะเป็นหนังที่มีชีวิตชีวา ดูเพลินๆอย่างหนึ่งเลยทีเดียว