X-Men: Apocalypse

เรื่องย่อของหนังดีที่น่าดู X-Men: Apocalypse

X-Men Apocalypse เป็นเรื่องราวการฟื้นคืนชีพของ อะพอคคาลิปส์ มนุษย์กลายพันธ์คนแรกที่เป็นอมตะจากการดูดพลังของมนุษย์กลายพันธ์คนอื่น ทำให้เขาเป็นมนุษย์กลายพันธ์ที่ยากจะต่อกรด้วย แน่นอนว่าเมื่อเขาถูกปลุกขึ้นมา เขาก็ได้พยายามสร้างโลกใหม่ พร้อมกับฟอร์มทีมมนุษย์กลายพันธ์ที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ไปกับเขา ทำลายล้างเหล่ามนุษย์ที่ไม่เห็นด้วยกับเขาและสร้างโลกในแบบที่เขาต้องการ ขณะที่ศาสตราจารย์เอ็กซ์ก็พยายามฟอร์มทีมเพื่อจะปกป้องโลกใบนี้รวมถึงคนอื่นๆที่ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของอะพอคคาลิปส์ด้วย เพื่อปกป้องทั้งโลกและพวกเขาเหล่านั้นไม่ให้ถูกทำลายล้างไป โดยเนื้อเรื่องนั้นจะเกี่ยวข้องกับภาคที่แล้ว X-Men: Days of Future Past ที่ทิ้งท้ายเอาไว้ให้ชวนติดตามกัน โดยชื่อตอนนั้นเป็นชื่อของวายร้ายที่นามว่า Apocalypse มนุษย์กลายพันธุ์ที่ถูกสร้างโดย Louise และ Walter Simonson ซึ่งถือกำเนิดมาในอียิปต์เป็นเวลานานกว่า 3,000 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อร่างกายแตกดับก็ได้ย้ายจิตไปยังร่างอื่น เป็นตัวละครที่เคยอยู่ในตอน The Age of Apocalypse ซึ่งตีพิมพ์ไปเมื่อปี 1995 แต่ไม่ได้หมายความว่ามนุษย์กลายพันธุ์ตัวอื่นๆจะไม่ได้มาร่วมแสดงแต่อย่างไร เพราะใน X-MEN APOCALYPSE เราจะได้เห็นมนุษย์กลายพันธุ์ที่เคยหายไปกลับเข้ามาในเนื้อเรื่องอีกครั้ง และแน่นอนว่าตัวละครที่จะเข้าร่วมในดูหนังเรื่องนี้นั้นจะยกขโยงกันมาจาก X-Men First class รวมไปถึง วูลฟ์เวอร์รีน มนุษย์กลายพันธุ์ที่ยังขายได้มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งก็ยังใช้บริการของฮิวจ์ แจ็คแมนเหมือนเดิม Apocalypse ผู้อยู่ยงคงกระพันเป็นอมตะ ผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่กว่าอื่นใดในจักรวาล ผู้เป็นมนุษย์กลายพันธุ์คนแรก ตื่นจากการหลับไหลอย่างยาวนานกว่าพันปี และแน่นอนว่า เขาไม่พอใจกับมนุษย์ที่ดำรงชีวิตอยู่ในแบบที่เป็นอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ ขณะเดียวกันเหล่า X-Men นั้นได้แยกย้ายกันอยู่คนละที่ บางส่วนใช้วิธีปิดบังตัวตนด้วยการใช้ชีวิตแบบคนทั่วไป ในยุคปี 1980 และ Apocalypse คือสิ่งที่ทำให้พวกเขาต้องกลับมารวมตัวกันเพื่อต่อสู้อีกครั้ง Apocalypse เปรียบได้กับบิดาแห่งมนุษย์กลายพันธุ์ เขาคือจุดเริ่มต้น รวมทั้งเป็นผู้ควบคุมพลังพิเศษของเหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ไว้ทั้งหมด ทุกอย่างไม่ได้ง่ายดายเหมือนที่ผ่านมา หายนะกำลังเกิดขึ้นกับโลกนี้อีกครั้ง เพราะ เขาเห็นว่ามีประชากรมนุษย์มากจนเกินไปและเขาอยากทำให้ลดลง และนั่นคือจุดจบของมนุษยชาติ เหล่า X-Men รุ่นใหม่รวมตัวกันเพื่อต่อสู้ Apocalypse ผู้พิทักษ์ทั้ง 4 รวมทั้งแม็คนีโต ผู้ที่หาทางกำจัดมนุษย์ให้หมดสิ้น และการสร้างโลกใหม่ที่เขาหวังไว้ การกลับมาอีกครั้ง Apocalypse ไม่มีทางเลือกที่จะหนี ทางเดียวเพื่อความอยู่รอดจากการเป็นทาสและความตาย คือรวมพลเพื่อสู้อย่างถึงที่สุดเท่านั้น

หนังเรื่องนี้น่าดูเต็มเรื่องมากแค่ไหน ?

เหล่า X-Men ที่นำโดยศาตราจารย์เอ๊กซ์ มิสทีค มอร่า ควิก ซิลเวอร์ และมนุษย์กลายพันธุ์คนอื่นๆ จะใช้พลังที่มีเข้าต่อสู้ Apocalypse ผู้พิทักษ์ทั้ง 4 รวมทั้งแม็คนีโต ที่พยายามวางแผนทำลายมนุษยชาติเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จะหยุดยั้งแผนสร้างโลกใหม่ได้หรือไม่ หรือผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะเป็นผู้อยู่รอด ตามที่ Apocalypse ลั่นวาจาไว้ การกอบกู้โลกครั้งนี้ทำให้ทุกคนต้องเปิดเผยตัวตนและพลังที่แท้จริง ไม่มีการปิดบังหรือยั้งมือใดๆทั้งสิ้น และโลกจะกลับมาสงบสุขได้อีกครั้งได้หรือไม่ ซัมเมอร์นี้มาร่วมชมบทสรุปของเหล่า X-Men ได้ทุกโรงหนัง โดยฉากและเนื้อเรื่องนั้นจะดำเนินไปท่ามกลางบรรยากาศในยุค 80 ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าจับตามองว่าผู้กำกับอย่าง Bryan Singer จะนำพาหนังเรื่องนี้ไปได้แค่ไหน และจะสามารถแบ่งส่วนของตลาดหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังพิเศษจาก Marvel ได้หรือไม่เตรียมรอดูหนังเรื่อง X-Men: Apocalypse ได้เลย

เตรียมตัวรอดูหนัง X-Men: Apocalypse ได้แล้ว

งานสร้างอลังการล้านแปดอย่างแน่นอน เพราะเป็นการกลับมาของมนุษย์ผู้มีพลังพิเศษที่เรียกได้ว่าแทบจะถือว่าตัวเองเป็นเทพเจ้าของเหล่า X-Men โดยเฉพาะงานด้านภาพที่ย่อมต้องจัดเต็มให้สมกับความยิ่งใหญ่ของหนัง ในขณะที่ตัวละครอย่างอะพอคคาลิปส์ก็มีมิติที่น่าสนใจ น่าชำแหละในด้านมุมมอง เขาเป็นตัวละครที่หลับไปในยุคที่อารยธรรมรุ่งเรือง แล้วตื่นขึ้นมาเมื่อโลกเต็มไปด้วยมลพิษ ทำให้เขารู้สึกว่าโลกนี้คือสิ่งเลวร้าย และสิ่งที่เขาควรจะทำคือ กำจัดความเลวร้ายให้หมดไปจากโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความโลภ หรือมลพิษ มลภาวะต่างๆ การทำลายล้างเพื่อจะสร้างขึ้นใหม่เป็นแนวคิดของอะพอคคาลิปส์ที่จะปรับปรุงโลกนี้ให้ดีขึ้น แต่ไม่มีอะไรยืนยันว่านั่นจะเป็นแนวคิดที่ดีที่สุด อย่างน้อยก็ศาสตราจารย์เอ็กซ์ที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินทุกอย่างด้วยมุมมองด้านเดียว คนๆเดียว ทำให้เขาต่อต้านความคิดและการกระทำนั้น ส่วนหนึ่งคงเพราะเขามีชีวิตอยู่ตลอดช่วงที่อารยธรรมเดินไปข้างหน้า เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ จนไม่อาจจะตัดสินลงไปได้ว่า ใครสมควรตายหรือไม่สมควร นอกเหนือจากภาพอลังการงานสร้างแล้ว เชื่อว่าหลายคนน่าจะสนใจแนวคิดของหนังเรื่องนี้ไม่น้อย ส่วนจะตัดสินอย่างไร ลองสัมผัสด้วยตัวเองจะดีกว่า