อาม่าในความทรงจำ ! จะมีความทรงจำเกี่ยวกับอาม่ายังไงกันบ้าง

ถึงแม้ว่า “อาม่า” ของเหล่าลูกหลานจะสิ้นลมหายใจไปแล้ว และทิ้งมรดกและทรัพย์สินจำนวนมหาศาลเอาไว้ให้ลูกหลานยื้อแย่งกันอยู่ แต่ก่อนที่เราจะไปเปิดพินัยกรรมของเศรษฐินีพันล้านนั้น เราก็ควรจะต้องระลึกถึง “อาม่า” ด้วยความอาลัยรักกันก่อนสักนิด เผื่อวิญญาณของอาม่ายังอยู่ จะได้แบ่งมรดกเพิ่มให้ยังไงล่ะ ไปดูกันว่าทั้งลูก ทั้งหลาน และเหล่าผู้ดูแล แต่ละคนนั้น จะมีความทรงจำเกี่ยวกับอาม่ายังไงกันบ้าง

เริ่มจาก “เกษม” ลูกชายคนโต ที่พูดถึงมารดาผู้ให้กำเนิดของตนเองว่า เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือ Single mom ที่เป็นเทรนด์ในสมัยนี้ ที่เต็มไปด้วยความเข้มแข็งและเก่งกาจ สามารถเลี้ยงลูกมาได้ด้วยตัวคนเดียว

ตามมาด้วยลูกชายคนรอง “พระกานต์” ที่เสริมมาว่า แม่ของตนนั้น เป็นคนเด็ดขาดและเจ้าระเบียบ ส่วน “ตี๋น้อย” ลูกชายคนเล็กนั้น บอกเล่าด้วยน้ำเสียงหวาดกลัวเล็กน้อยว่า อาม่านั้นเหมือนมาเฟีย คือ อยากได้อะไรก็ต้องได้ แต่ลูกเขยอย่าง “บดินทร์” กลับบอกว่า แม่ยายของตนนั้นช่างเป็นคนดูยาก หลายบุคลิกเหลือเกิน คาดเดาอารมณ์กันไม่ถูกเลยทีเดียว

ด้าน “อาเหมา” พ่อบ้านประจำตระกูลกลับพูดอย่างปลงๆ ว่า ถึงแม้ว่าอาม่าจะดุแค่ไหนก็ตาม แต่บรรดาลูกหลานก็ไม่ค่อยกลัวหรือเชื่อฟังอาม่านักหรอก ส่วนรุ่นหลานอย่าง ต้า ต้อง และอั่งเปา ก็พูดตามภาษาวัยรุ่นว่า อาม่านั้นช่างเป็นสตรีที่ Strong ทั้งยามเป็นและยามตาย !!!

รู้จักอาม่ากันมาพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็มาดูกันต่อว่า เหตุผลที่เหล่าลูกหลานต่างมารวมตัวกันอยู่ ณ คฤหาสน์ หลังโตของอาม่าและไปไหนไม่ได้ ก็คือมรดกของอาม่านั่นเอง แต่ก่อนที่แต่ละคนจะได้เปิดพินัยกรรมแบ่งมรดกสมใจกันนั้น อาม่าสาย Strong ก็ไม่ปล่อยให้ได้กันไปง่ายๆ งานนี้ถ้าอยากได้มรดก ก็ต้องเล่นตามกฎของอาม่า ทำภารกิจที่มอบหมายไว้ให้ครบถ้วนซะก่อน อาม่าถึงจะยอมให้เปิดพินัยกรรมแบ่งมรดกกันได้ แต่ก่อนจะเปิดพินัยกรรมกันจริงๆ เรามาดูกันว่าแต่ละคนนั้นมีความคาดหวังในมรดกครั้งนี้กันยังไงบ้างดีกว่า

เกษม ลูกชายคนโตนั้น คงคอนเซ็ปในใจว่า ครอบครัวคนจีน ลูกชายคนโตนั้นต้องสำคัญที่สุด ดังนั้นตัวเองต้องได้ส่วนแบ่งมากกว่าใครๆ แน่นอน

ส่วนบดินทร์ ลูกเขยหนึ่งเดียวของอาม่า ก็ไม่หวังอะไรมาก ก็แค่แต่งงานกับลูกสาวสุดที่รักเพียงคนเดียวของอาม่าเท่านั้น เขาไม่หวังอะไรนัก ก็แค่ครึ่งหนึ่งของสมบัติ เท่านั้นเอ๊ง

ตี๋น้อย ลูกชายคนสุดท้อง ผู้ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย ก็หวังแค่ว่ามรดกนี้แม่จะเห็นแก่ที่เขายังไม่มีงานประจำเหมือนคนอื่นๆ จะแบ่งมรดกให้มากหน่อย เห็นแก่ตี๋น้อยของม่าม้าเถอะ

อีกหนึ่งคนที่เป็นหนามคอยทิ่มแทงใจเหล่าลูกหลานของอาม่าก็คือ “อาเหมา” พ่อบ้านประจำตระกูลที่เขาและหลานสาวคอยดูแลอาม่ามานาน งานนี้อาเหมาก็หวังว่าอาม่าจะไม่ลืมตนและหลาน แบ่งมรดกมาให้บ้างก็จะดีไม่น้อย

 

แต่ใครจะได้มากได้น้อย ได้เท่าไหร่นั้น คงต้องไปลุ้นกันในวันเปิดพินัยกรรมของ “อาม่า” ในวันที่ 25 สิงหาคม นี้ รับรองฮากระจาย ฮวงซุ้นแตกแน่นอน ในโรงหนัง