สุดยอดรถยนต์หรูคู่กายคู่ใจของสายลับเจมส์-บอนด์ 007

จากนวนิยายสายลับสุดอมตะที่มีความคลาสสิคเหนือกาลเวลาและสร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนานต่อเนื่องกว่า 50ปี!! ของนักเขียนชื่อดัง เอียน เฟรมมิ่ง  เจ้าของบทประพันธ์ผู้สรรค์สร้างให้เกิดตัวละครสายลับทรงเสน่ห์ เจมส์-บอนด์007 สู่การสานต่อความสำเร็จกลายเป็นหนังสายลับภาคต่อฟอร์มยักษ์ระดับโลกอย่าง เจมส์-บอนด์ 007 ยิ่งตอกย้ำทำให้ตัวละครพยัคฆ์ร้าย007 นี้มีความสมจริงและสมบูรณ์แบบเพิ่มมากยิ่งขึ้น ที่ในปัจจุบันยังคงโลดแล่นอยู่บนจอเงินมาแล้วกว่า 23ภาคอีกด้วย!! ถือว่าเป็นหนังสายลับที่ประสบความสำเร็จครองใจแฟนๆผู้ติดตามตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การกลับมาครั้งนี้ในชื่อล่าสุดว่า Bond 24: Spectre (องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย) ยังคงได้ผู้กำกับสุดเจ๋งอย่าง แซม เมนเดส มารับหน้าที่เป็นผู้กำกับและทีมงานเบื้องหลังชุดเดิมเหมือนภาคที่ผ่านมา อีกทั้งยังคงได้นักแสดงหนุ่มมากฝีมือแถวหน้าแห่งวงการฮอลลีวูด แดเนียล เคร็ก ในวัย 38ปีมารับบบทบาทเป็นสายลับ007สายลับคนเดิมที่รู้จักกันดีในชื่อของ บอนด์ หรือ เจมส์ บอนด์ (James Bond) และแน่นอนว่าสิ่งที่ถูกจับตามองจากเหล่าบรรดาแฟนคลับผู้ติดตามหนังเรื่องนี้ทั่วโลก ต่างพุ่งประเด็นความสนใจมาที่พาหนะรถคู่กายสุดไฮเทคที่ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีสุดยอดนวัตกรรมที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน เพราะในภาคก่อนๆที่ผ่านมาเจมส์-บอนด์007 มักจากปรากฏกายพร้อมด้วยพาหนะคู่ใจสุดล้ำด้วยเทคโนโลยีที่ไม่ธรรมดา รถยนต์ของสายลับบอนด์ในแต่ละภาคนั้นนับว่าเป็นจุดขายที่สำคัญจุดหนึ่งของหนังสายลับเรื่องนี้เลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ผู้ชมทั่วโลกจึงต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมากพอๆกับการอยากรู้ว่าใครจะเป็นมาซิวบทบาทสาวสวยสุดเซ็กซี่ของบอนด์ไปครอง ว่าสุดยอดรถยนตร์ภาคนี้นั้นมีความพิเศษล้ำสมัยกว่าภาคก่อนๆอย่างไร ซึ่งในวันงานแถลงข่าวเปิดตัวหนัง Bond 24.. Spectre-องค์กรลับดับพยัคฆ์ร้าย ก็ได้รับการเปิดเผยอย่างเป็นทางการแล้วว่ารถยนต์สุดล้ำนำเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้เป็นพาหนะคู่กายของ สายลับ007 นั้นคือ Aston Martin DB10 ที่ออกแบบดีไซด์รับกับการติดตั้งอุปกรณ์อาวุธครบมือด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย และไม่มีใครคาดการณ์ความสามารถพิเศษของรถยนต์ไฮเทคคันนี้ได้อย่างแน่นอน ซึ่งถือว่าจะเป็นอีกไฮไลค์หนึ่งที่จะสร้างสีสันความบันเทิงสุดเร้าใจให้กับหนังสายลับเรื่องนี้อีกด้วย เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาวันนี้เรามาเตรียมความพร้อมย้อนไปดูกับสุดยอดพาหนะรถยนต์คู่กายคู่ใจ ของสายลับเจมส์-บอนด์007ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันว่าที่ถูกจัดว่าเป็นสุดยอด ติด 5อันดับ-ท็อปไฟล์ว่ามีแบรนด์ใดและรุ่นอะไรกันมาแล้วบ้าง เพื่อความสนุกที่ครบรสและเพิ่มอรรถรสในการรับชมหนังสุดยอดสายลับเรื่องนี้

1.  Aston Martin Vanquish แอสตัน มาร์ติน แวนควิช เป็นหนึ่งในสุดยอดรถยนต์คู่กาย

   

   ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็น1ในสุดยอดรถยนต์สุดยอดคู่กายคู่ใจ ของสายลับ เจมส์-บอนด์007 ปรากฏตัวให้ผู้ชมได้ยลโฉมอยู่ในภาค Die another dayที่ป๋าเพียช-บอสแนนต้องขับไล่ล่ากับศัตรูท่ามกลางความหนาวเหน็บบนลานน้ำแข็งนั่นเอง

2.  Sunbeam Alpine Series II ซันบีม อัลไพน์ซีรี่ส์ 2 รถยนต์ต้นแบบสุดคลาสิคระดับตำนาน

   

   เป็นรถยนต์คู่กายของสายลับบอนด์007 ในภาคแรก Dr. No ที่กลายเป็นรถยนต์ต้นแบบสุดคลาสิคที่เป็นที่สุดของความสมบูรณ์แบบทำให้เกิดเป็นไฮไลค์จุดขายสำคัญีกจุดหนึ่งของหนังสายลับเรื่องนี้อีกด้วย

3.  BMW Z8 บีเอ็มดับเบิลยูซี8 ที่สุดของดีไซด์ประทับในผู้ชม

   

   เป็นอีกหนึ่งสุดยอดพาหนะรถคู่กายของพยัคฆ์ร้าย007 ที่เป็นที่สุดของความงามที่ไดรับการดีไซด์มาอย่างดี อีกทั้งยังมีอาวุธจรวดมิสไซล์สุดไฮเทคโนโลยีที่ถือว่าล้ำนำสมัยในยุคนั้นสมัยนั้นเลยที่เดียว จึงกลายเป็นสุดยอดของความประทับใจ

4.  Aston Martin DB5 แอสตัน มาร์ติน ดีบี5 ไม่ว่าใครก็อยากครอบครอง

   

   ปรากฏสู่สายตาผู้ชมครั้งแรกในปี 1964 และแน่นอนว่าตั้งแต่นั้นมาแอสตัน มาร์ติน ดีบี5คันนี้ ก็ได้กลายเป็นรถยนต์เป็นที่ต้องการอย่างมากจากเหล่าผู้ชมคนดูสาวกสายลับ007 ที่ควานหาซื้อจับจองเป็นเจ้าของ เพราะรูปทรงที่สุดแสนจะคลาสสิคเป็นที่ถูกอกถูกใจบรรดานักสะสมจากอดีตจนถึงปัจจุบันที่มูลค่าของมันนั้นไม่สามารถตีเป็นเงินได้

5.  Toyota 2000GT โตโยต้า 2000จีที รถสปอร์ตคู่ใจสัญชาติญี่ปุ่นคันแรกและคันเดียว

   

   เป็นรถยนสปอร์ต เปิดประทุนสองประตูคู่ใจของพระเอกสายลับเจมส์-บอนด์007ที่เป็นรถสัญชาติญี่ปุ่นคันแรกและคันเดียวที่ปรากฏตัวในหนังสายลับระดับโลกเรื่องนี้

เชื่อแน่ว่าหลายคนคงจะต้องร้องว้าวออกมาอย่างแน่นอน หลังจากที่ได้ยลโฉม สัมผัสด้วยสายตาถึงความสวยงามในด้านดีไซด์ที่ได้รับการออกแบบมาอย่าง ของรถยนต์พาหนะคู่ใจคู่กายสายลับเจมส์-บอนด์007 อีกทั้งยังคงถูกสอดแทรกด้วยนวัตกรรมที่สุดล้ำนำสมัยด้วยเทคโนโลยียิ่งเป็นตัวสร้างความสนใจ และสีสีนความสนุกให้กับหนังเรื่องนี้ ที่สามารถดึงดูดความสนใจจากเหล่าผู้ชมคนดูสาวกคอหนังพยัคฆ์ร้าย007 ให้อยากที่จะติดตามรับชมต่อไปไม่ว่าจะถูกสร้างให้เป็นหนังภาคต่ออีกกี่ภาคอีกกี่ครั้งก็ตาม เพราะแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเกินกว่าค่าตั๋วที่ควักกระเป๋าจ่ายไปที่เรียกว่า คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้ม นั่นเอง