COP CAR

เป็นหนังไอเดียเก๋ไม่น้อย สำหรับหนังเรื่องนี้ที่หากอ่านเรื่องย่อเผินๆอาจจะคิดว่าเป็นหนังไล่ล่าธรรมดา แต่จะบอกเลยว่าหากใครคิดอย่างนั้นถือว่าเป็นการคิดผิดมหันต์ เพราะนี่คือหนังที่ติดหนึ่งในสิบของหนังอินดี้ยอดเยี่ยมประจำปี 2015 แถมคะแนนคำชมที่มีต่อหนังเรื่องนี้ในเทศกาลหนังซันแดนซ์ยังอยู่ในในระดับเอบวกอีกด้วย  แค่เท่านี้หลายคนก็หันพรึบมาสนใจหนังเรื่องนี้กันอย่างพร้อมเพรียง ด้วยฝีมือการกำกับของ Jon Watts ที่ได้นักแสดงชื่อดังอย่าง Kevin Bacon มารับบทนายตำรวจผู้ไล่ล่าเด็กน้อยสองคนในเรื่องด้วยความระทึกขวัญ ทั้งยอกย้อนและเจ็บแสบ แบบที่คนดูต้องเทใจให้

เรื่องย่อ

Cop car เป็นเรื่องราวของเด็กน้อยสองคนที่บังเอิญไปพบเจอกับรถยนต์คันหนึ่งที่จอดทิ้งเอาไว้อย่างโดดเดี่ยว ซึ่งมันคงจะไม่มีอะไรเกินเลยหากกุญแจรถไม่ได้ถูกเสียบเอาไว้ด้วย แน่นอนว่าด้วยความอยากรู้อยากลอง ทำให้เด็กชายทั้งสองคนตัดสินใจสตาร์ทรถแล้วขับพุ่งออกไปโดยไม่รู้เลยว่าตนเองนั้นได้ทำผิดอย่างมหันต์ เมื่อรถดั่งกล่าวนั้นเป็นรถตำรวจของนายตำรวจนามเครทเซอร์ ซึ่งได้ทิ้งร่องรอยบางสิ่งบางอย่างไว้บนรถ แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่จะกลายเป็นหลักฐานได้ว่าเขาปกปิดการกระทำบางอย่างที่จะสั่นคลอนหน้าที่การงานของเขาให้พังทลายลงได้ ดังนั้นการไล่ล่าเด็กทั้งสองแบบปราศจากความเมตตาว่านั่นเป็นเพียงเด็กจึงเกิดขึ้นอย่างแสบสันต์เลยทีเดียว

เด็กชายสองคนกำลังเดินเล่นตามประสาเด็กทั่วไปตามทุ่งหญ้า ความบังเอิญทำให้ทั้งสองไปเจอรถตำรวจ ด้วยวัยเด็กที่อยากรู้อยากเห็น พวกเขาไม่รีรอที่จะไปที่รถนั้นโดยไม่รู้ว่านั่นคือบ่อเกิดความหายนะที่จะตามมาภายหลัง เด็กๆเห็นประตูรถเปิดไว้ รวมทั้งกุญแจรถ นั่นคือความท้าทายที่พวกเขาต้องการจะพิชิตมัน เขาขับรถคันนั้น และนี่คือการขับรถยนตร์ครั้งแรกของพวกเขา เขาพยายามที่จะขับรถออกไปและในที่สุดเขาก็ขับรถออกไปที่ถนน เป็นการขับรถที่สนุกสนานที่แฝงไปด้วยความน่ากลัวและความระทึก ไม่นานนักมีเพื่อนร่วมถนนได้สังเกตุเห็นความผิดปกติ ของรถตำรวจแต่เด็กเป็นคนขับ การแจ้งเหตุร้ายจึงเกิดขึ้น นำไปสู่การไล่ล่าสุดระทึกที่จะตามมา ตำรวจผู้มากประสบการณ์ไม่รีรอที่จะเข้าระงับเหตุ แต่ความจริงแล้ว มีบางอย่างที่ซ่อนไว้ในรถนั้น ความลับดำมืดที่ถูกปกปิด อาชญากรรมที่รอการสะสาง เรื่องราวมากมายที่ซ่อนไว้และการแก้แค้นที่จะตามมา ทำให้เขาไม่สามารถหยุดล่าได้ เด็กน้อยเป็นเพียงเหยื่อล่อให้เขาไม่สามารถ เข้าใกล้ความจริง รวมทั้งความเสี่ยงต่อหน้าที่การงานของเขา เขาจะหยุดยั้งหายนะที่จะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เด็กน้อยกลับกลายมาเป็นผู้ถูกล่า ตำรวจกลายมาเป็นผู้ล่า ผู้ร้ายตัวจริงคือใคร อีกทั้งยังมีศัตรูที่มองไม่เห็นเพื่อรอวันชำระแค้น การสาวไปถึงผู้บงการตัวจริง นั่นคือจุดพลิกผัน ทำให้สถานการณ์ทุกอย่างบีบคั้นเกินกว่าจะนิ่งเฉยได้

 

การหยิบเอาเด็ก และตำรวจ มาไล่ล่ากันแบบไม่แคร์ใคร เอาแค่พลอตก็เจ๋งแล้ว เผินๆอาจจะดูธรรมดา แต่ด้วยความที่ผู้ถูกไล่ล่าคือเด็ก ความธรรมดาจึงกลายเป็นความยอกย้อนที่แสบสันต์ ซึ่งถ้าใครได้ดูตัวอย่างคงต้องยอมรับว่าทั้งภาพและองค์ประกอบการแสดง ท่าทางต่างๆนั้นเป็นงานอินดี้ชั้นดี และนักแสดงหลักทั้งสามคนไม่ว่าจะเด็กทั้งสองและเควิน เบคอนก็ดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ด้วยให้โทนหนังดูน่าสนใจ การหยิบเอาประเด็นตำรวจผู้มีลึกตื้นหนาบางบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนเร้น จนต้องยอมแม้กระทั่งลดตัวไปไล่ล่าเด็กที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว ทั้งที่ความจริงแล้วตนเองนั้นมีสถานะเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เพียงเพราะกลัวว่าความลับที่ปกปิดเอาไว้นั้นจะถูกเปิดเผย เป็นอะไรที่เจ็บแสบทรวงทีเดียว ที่เจ๋งสุดๆคือการที่ผู้กำกับพาเราร่วมเดินทางไปกับการไล่ล่าที่แสนจะระทึกขวัญนี้ด้วย และถ้าหากว่าคุณไม่อยากพลาดการตามล่าที่สุดแสนจะอินดี้และขยี้หัวใจนี้ล่ะก็ 14 ธันวาคมนี้ อย่าลืมตีตั๋วเข้าไปดูได้ทุกโรงหนัง

ความมันส์ ความระทึกใจ คือจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ เรื่องราวที่พลิกผันไปมาตลอด ทำให้ผู้ชมสนุกไปด้วย จนทำให้ต้องติดตามอย่างไม่กะพริบตา การไล่ล่าที่ระทึกใจถึงเจือจางให้เบาลงด้วยความน่ารักของเด็กๆ ที่ใช้ความไร้เดียงสาตามวัย ทำให้หนังดูไม่เครียดจนเกินไป  การเปิดผยกำลังจะเกิดขึ้น การตามล่าคือคำตอบและทางเลือกเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างจบลงอย่างที่มันควรจะเป็น