Snowden

Snowden อีกหนึ่งหนังที่ใครหลายคนกำลังรอคอย ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะมันสร้างมาจากเรื่องที่เป็นที่ฮือฮาก่อนหน้านี้ของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อดีตลูกจ้างของหน่วยงานสำคัญของประเทศสหรัฐอเมริกาอย่าง NSA และCIA ที่เปิดเผยเรื่องราวการล่วงล้ำสิทธิส่วนบุคคลของประชากรในประเทศเช่นการล้วงข้อมูลทางอินเตอร์เนต การดักฟังโทรศัพท์ จนเกิดเป็นการเปิดโปงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้ งานนี้ผู้กำกับที่เคยได้รับรางวัลออสการ์อย่าง Oliver Stone จึงหยิบเรื่องราวของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนมาจากหนังสือเรื่อง The Snowden Files  The Inside Story of the World’s Most Wanted Man ผลงานการเขียนของ ลูค ฮาร์ดิง และหนังสือเรื่อง Time of the Octopus ที่เขียนโดย อนาโทลี คูเชเรนา

เนื้อเรื่องของ Snowden

Snowden เป็นเรื่องราวที่ดัดแปลงจากเรื่องจริงของชายหนุ่มผู้ที่เคยศรัทธาในประเทศของตัวเองอย่างมาก เขาภูมิใจกับการเป็นลูกจ้างในหน่วยงานที่สุดยอดอย่าง NSA และCIA จนกระทั่งเมื่อเขาค้นพบความจริงว่าทั้งสองหน่วยงานนั้นกำลังล่วงละเมิดสิทธิส่วนตัวของประชาชนทุกคนบนโลก ด้วยการดักฟังโทรศัพท์ เข้าถึงข้อมูลทางอินเตอร์เนต ทั้งการเล่นอินเตอร์เนต หรือการสนทนาทางโซเชียลมิเดีย เมื่อนั้นความคิดและมุมมองของเขาก็เปลี่ยนไป สโนเดนจึงนำข้อมูลเหล่านั้นมาเปิดเผยต่อหนังสือพิมพ์เดอะการ์เดี๊ยนของอังกฤษ เขาจึงกลายเป็นอาชญากรที่กระทบต่อความมั่นคงของสหรัฐ และเมื่อนั้นเกมส์จับหนูก็เริ่มต้นขึ้น พร้อมกับข้อมูลลับที่ถูกเผยออกมาให้ประชาชนรับรู้เรื่อยๆ  เจ้าหน้าที่สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ได้ออกมาตีแผ่และเปิดโปงถึงการถูกล้วงข้อมูลจากรัฐบาล นี่คือโครงการลับ ที่ละเมิดสิทธิ์ของชาวอเมริกาเพราะนั่นหมายถึงความเป็นส่วนตัวจะไม่มีอีกต่อไปแล้ว การออกมาเปิดโปงนี้สร้างความไม่พอใจให้รัฐบาลเป็นอย่างมาก และท้ายสุดเข้าถูกดำเนินคดี ยึดพาสปอร์ต ถูกดำเนินการต่างๆทางการทูต เขาได้หลบหนีพร้อมเอกสารลับเป็นจำนวนมากออกนอกประเทศ  รัฐบาลตระหนักดีว่าอาวุธที่น่ากลัวที่สุดในยุคนี้คือ ข้อมูล และยิ่งเป็นข้อมูลลับด้วยแล้ว ทำให้รัฐบาลต้องทำทุกวิถีทางเพื่อนำตัวเขากลับมาให้ได้ การเปิดโปง PRISM PROJECT เริ่มขึ้นในปี 2007 พร้อมทั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไปไอทีนั้น เต็มใจที่จะให้รัฐบาลดูข้อมูลได้ และยิ่งไปกว่านั้นคือ ระบบไอทีที่ทรงพลังนี้พร้อมใจกันถล่มเครือข่ายของประเทศอื่นได้ในทันที ในอีกแง่หนึ่ง เขาเองก็ถูกตราหน้าว่าเป็นคนทรยศ ขายความลับให้ต่างชาติ เพราะข้อมูลที่เขาเปิดเผย ล้วนแล้วแต่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชน ไร้คุณธรรม แต่มีคนบางส่วนที่ไม่เชื่อถือเขาเนื่องจากเอกสารที่เขานำมาอ้างอิงนั้นยังไม่มีข้อมูลชัดเจนและยังเป็นเพียงการเสนอแนวความคิดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เขาได้กลายเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปเสียแล้ว เขาได้ลี้ภัยที่ ฮ่องกงและรัสเซียจากการช่วยเหลือจากทนายความในปี 2013

ความน่าสนใจของหนังเรื่อง Snowden

ในส่วนของความอินในเนื้อเรื่อง Snowden เชื่อว่าน่าจะมีมากพอสมควร เพราะตัวเนื้อเรื่องอิงจากเรื่องจริงที่หลายคนเองก็ได้ติดตามข่าวมาตลอด เพียงแต่เมื่อมาทำเป็นหนังอาจจะต้องใส่อารมณ์โอเว่อร์ลงไปเพื่อให้คนดูดูสนุกขึ้นเสียหน่อย จึงกลายเป็นหนังชีวิตที่เพิ่มความลุ้นระทึกเอาใจช่วยคนที่เป็นคล้ายๆฮีโร่ เพราะเขาเป็นคนที่ทำให้ทุกคนรู้ว่า สหรัฐกำลังละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานของเขาอยู่ แต่ในด้านเนื้อหาที่นำมาดัดแปลงไม่รู้ว่าทีมเขียนบทจะทำได้ดีประมาณไหน เพราะจัดว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่สร้างความหวาดระแวงในระดับประเทศได้เลยทีเดียวแต่ด้วยรางวัลออสการ์การันตีก็เชื่อว่าผู้กำกับอย่าง Oliver Stoneน่าจะรักษาคุณภาพของตัวเองได้อย่างดี ส่วนผู้ที่มารับบท Snowden คือนักแสดงมากความสามารถ Joseph Gordon-Levit ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นหน้าเขาจาก 500 Day of summer นั่นเอง เชื่อเถอะว่าใครที่เคยเห็นฝีมือของเขามาแล้วนั้น จะเชื่อว่าเขาไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน จึงถือว่าเป็นอีกหนึ่งหนังที่น่าสนใจด้วยความสมจริงในเนื้อหาที่อิงมาจากของจริงนั่นเอง ใครอยากรู้ว่ารัฐบาลจะล้วงความลับเราได้แค่ไหน ก็ลองไปดูหนัง Snowden กัน!

การทำในสิ่งที่คิดว่าถูกต้อง ในมุมหนึ่งอาจเป็นความชั่วร้ายของบางคน การกระทำที่ออกมาเปิดโปงข้อมูลลับของชาติตัวเอง ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรงเป็นอย่างมาก แต่การทำในสิ่งที่ถูกต้องนั้นเป็นเรื่องที่เหนือกว่า การลี้ภัยในรัสเซียอาจยังไม่เพียงพอสำหรับเขา เขาจึงต้องลี้ภัยไปเอกวาดอร์ต่อไปตามเป้าหมาย อย่างน้อยที่สุดเรื่องราวดังกล่าว จะทำให้เราตระหนักรู้ว่าโลกของเราได้เปลี่ยนไปแล้ว ข้อมูลความลับก็เปรียบเสมือนอาวุธหนักอย่างหนึ่งที่สามารถทำลายผู้คนได้เช่นกัน