สมุดโน้ตมรณะกลับมายังโลกมนุษย์อีกครั้ง Death Note: Light Up the New World

ใครจะคาดคิดว่า แค่สมุดธรรมดาๆ หนึ่งเล่มจะสามารถฆ่าคนได้ เพียงแค่เขียนชื่อลงไปและรู้จักหน้าตาของคนนั้นๆ เท่านั้น แต่ Tsugumi Ohba และ Takeshi Obata สองนักวาดและนักเขียนการ์ตูนก็ทำให้ความคิดนี้เป็นจริงขึ้นมาได้ ด้วยการสร้างการ์ตูนเรื่อง Death Note ออกมาในปี 2003 และได้รับความนิยมจากชาวญี่ปุ่นและแฟนๆ มังงะทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว จนกระทั่งถูกนำไปพัฒนาให้เป็นหนังฉบับคนแสดงภาคแรกในปี 2006 เรื่อยมาจนกระทั่งถึงปี 2008 และในปี 2016 นี้ก็เป็นเวลาที่เรารู้จักสมุดโน้ตมรณะเล่มนี้ในโลกหนังก็เป็นเวลาครบ 10 ปีพอดี สตูดิโอ Warner Bros.  ก็พร้อมที่จะนำสมุดโน้ตมรณะกลับลงมายังโลกมนุษย์อีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ 2 เล่มเหมือนครั้งก่อนๆ แต่คราวนี้ตกลงมาในโลกมนุษย์ถึง 6 เล่ม งานนี้จะเป็นยังไงต้องติดตามกัน

Death Note: Light Up the New World เรียกได้ว่าเป็นหนังภาคต่อที่มีคนรอคอยมากที่สุดเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้  เพราะเรื่องราวในภาคก่อนหน้านั้นยังมีเรื่องที่ยังไม่คลี่คลายอีกหลายเรื่อง และแฟนๆ ก็ยังคงคิดถึงยมทูตจอมกวนที่ชอบกินแอปเปิ้ลอยู่ แม้ว่าทั้ง L และ คิระ จะสิ้นสุดบทบาทไปแล้วก็ตาม ซึ่งในภาคใหม่นี้ มีตัวละครเดิมจากภาคก่อนหน้าเพียงคนเดียวที่กลับมาปรากฏตัว นั่นก็คือ ดาราสาวขวัญใจหนุ่มๆ อดีตเจ้าของสมุดโน้ตมรณะเล่มที่ 2 มิสะ มิสะ ที่ได้นักแสดงคนเดิมคือ โทดะ เอริกะ กลับมารับหน้าที่แสดงในบทนี้อีกครั้ง แต่นอกจากนั้นจะเป็นเรื่องราวของ  Death Note ทั้ง 6 เล่ม ที่ตกลงมาในยุคที่การก่ออาชญากรรมได้เปลี่ยนรูปแบบต่างออกไปจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วโดยสิ้นเชิง เป็นการก่ออาชญากรรมผ่านทางไซเบอร์ คนที่ถูกทำร้ายบ้างครั้งยังไม่เห็นหน้าคนร้ายเลยสักครั้ง แล้วแบบนี้ต่อให้มี Death Note ไว้กับตัว แต่ถ้าไม่สามารถรู้จักหน้าและชื่อจริงของคนร้ายได้ แล้วแบบนี้สมุดโน้ตเล่มนี้จะทำอะไรได้อีกบ้าง และกฎใหม่ของ Death Note ที่เราไม่เคยรู้มาก่อนก็คือ ในโลกมนุษย์จะมี Death Note ได้สูงสุดแค่เพียง 6 เล่มเท่านั้น

และถ้าแค่นี้ยังไม่ตื่นเต้นพอ ในภาคใหม่นี้ Death Note จะตกอยู่ในมือของทายาทของทั้ง L และ คิระ คนละเล่ม ซึ่งชะตากรรมของพวกเขาก็ต้องกลายเป็นคู่ปรับ ไล่ล่าอีกฝ่ายเพื่อชัยชนะของตน ไม่ต่างจาก L และ คิระในภาคก่อนๆ ถึงจะใกล้กำหนดเข้าฉายทั้งในญี่ปุ่นและในไทยแล้ว แต่รายละเอียดของภาคใหม่นี้ยังคงไม่เป็นที่เปิดเผยมากนัก คงต้องตามไปลุ้นกันในโรงหนัง สำหรับไทยเข้าฉายหลังญี่ปุ่นในวันที่ 3 พฤศจิกายน นี้