เกิดเป็นกระแสดังข้ามคืน หนัง “อาบัติ” หมิ่นเหม่หรือไม่

เกิดเป็นกระแสดังข้ามคืน หนัง “อาบัติ” หมิ่นเหม่หรือไม่

อาบัติ

เกิดเป็นกระแสดังเพียงชั่วข้ามคืน อาบัติ หนังผีสยองขวัญสั่นประสาท ที่เวรย่อมระงับด้วยการจองเวร!! ภายใต้ค่ายหนังคุณภาพโดย สหมงคลฟิมล์ อินเตอร์เนชั้นแนลและบาแรมยู นำทัพเปิดตัวโดยเสี่ยเจียง ไว้วางใจให้ฝน-ขนิษฐา ขวัญอยู่ผู้กำกับสาวเก่งหนึ่งในผู้กำกับหญิงเพียงไม่กี่คน ในแวดวงการหนังไทย มานั่งแทนคุมโปรเจ็คหนังผีระทึกขวัญเรื่องใหม่ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากผีเผต หรือผีเปรตตามแนวความเชื่อที่มีมาอย่างช้านาน หลังจากได้รับโจทย์จากรุ่นพี่ผู้กำกับชั้นครูอย่าง พี่ปรัชญา ปิ่นแก้ว และ พี่อ๊อด-บัณฑิต ทองดี ว่าต้องเป็นหนังผี เธอจึงรีบกระโจนอย่างไม่รอช้าตามสไตล์ผู้กำกับใหม่ไฟแรง รื้อค้นลงพื้นที่หาข้อมูลเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากผู้เฒ่าผู้แก่ แกะรอยจากประวัติและตำนาน จดบันทึกเขียนเป็นบทหนัง ขัดเกลาเนื้อหาจนได้ความหลอนสุดสะพรึง สู่การปั้นแต่งเป็นหนัง อาบัติ หนังผีระทึกขวัญที่คุณไม่ควรไปดูคนเดียว!!

ข่าวอาบัติ

เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ได้ปล่อยทีเซอร์หนังออกมาอย่างเป็นทางการ ก็เกิดเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงในโลกโซเชี่ยว Instragram /Facebook /Twitter โหมกระหน่ำเร็วยิ่งกว่าสัญญาณอินเตอร์เน็ต 4G ติดอันดับท็อปเท็นแฮชแท็กยอดฮิต ที่มีผู้ทวิตถึงกันมากที่สุด!! พร้อมทั้งกระแสจากผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ถึงความเหมาะสมในด้านของเนื้อหาของหนังเรื่องอาบัติที่ตีแผร่ปัญหาทางสังคมผ่านเนื้อหาที่มีความประเจิดประเจ้อและหมิ่นเหม่ความเชื่อตามหลักพระพุทธศาสนา ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อกันเป็นทอดๆ และทำให้ประชาชนชาวพุทธเกิดความเข้าในผิดและมีทัศนะคติที่ไม่ดีต่อหลักทางพระพุทธศาสนา ทั้งนายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) และด้วยภาคีเครือข่ายองค์กรพุทธ ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เมื่อวันพุธ ที่23 กันยายน ที่ผ่าน ว่าควรที่จะมีการทบทวนการฉายหนัง อาบัติใน 4ประเด็นหลักใหญ่ๆ เลยคือ

  1. ด้านเนื้อหาของหนังดังกล่าว ทำให้เกิดความไม่เคารพในพระพุทธศาสนา เนื้อหาที่หมิ่นเหม่ในหลักศีลธรรมจรรยาต่อคำสอนทางพระพุทธศาสนาอย่างโจ่งแจ้งเกินงาม
  2. หนังเรื่องนี้ไม่ก่อให้เกิดคุณค่าใดๆ เรื่องได้ว่าหากเป็นอาหาร ก็เป็นเพียงอาหารขยะที่ไม่มีสารอาหารหรือประโยชน์อันใดให้กับร่างกายและสมองของมนุษย์ หากแต่ก่อให้เกิดโทษจากการที่บริโภคโดยขาดความไตร่ตรองยั้งคิดอีกด้วย
  3. หากแต่ทางผู้สร้างหนังมีเจตนาที่มุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ ผลกำไรเป็นที่ตั้ง แต่ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อบริบททางสังคมไทยว่าสิ่งที่ผลิตออกมานั้นจะทำความศรัทธา เชื่อมั่น ความมั่นคงต่อหลักทางศาสนาหรือไม่ จึงถือว่าเป็นการมุ่งหวังบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาทางตร
  4. ด้านจิตสำนึก ขาดจิตสำนึกที่ดีต่อสังคม ต่อประเทศชาติ สร้างหนังจากจินตนาการที่รุกล้ำ ล้ำเส้นทางพระพุทธศาสนา

ข่าวอาบัติ
จากข้างต้นตามข้อเรียกร้องของทางนายกสมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนา (สนพ.) และด้วยภาคีเครือข่ายองค์กรพุทธนั้น ยังระบุเป็นลายลักษณ์อักษรอีกด้วยว่า หากไม่เกิดการปรับปรุงแก้ไข หรือทบทวนการเข้าฉายของหนังเรื่อง อาบัติ ในระยะเวลาที่กำหนดเกินกว่า 7วัน ก็จะใช้ยาแรงขึ้นโดยการจับมือกับผู้สนับสนุนรณรงค์เคลื่อนไหวอีกทางหนึ่งเพื่อเป็นการตอบโต้ทางบริษัทผู้ผลิตหนัง ซึ่งเมื่อในวันพฤหัสที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา ทางเครือค่ายก็ได้เดินทางไปยื่นหนังสือต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาแล้วด้วยเช่นกัน ซึ่งทางด้านกระทรวงวัฒนธรรมก็ไม่ได้นิ่งเฉยเช่นกันหากแต่จะมีการพิจารณาโดยคณะกรรมการตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ตามเวลาในวันพุธที่ 7ตุลาคม ซึ่งประกอบด้วยผู่ทรงคุณวุฒิมากมายหลากหลายด้านหลากหลายบทบาททางสังคม ทั้งด้านเด็กเยาวชน จิตวิทยา และทางด้านศาสนาเนื่องจากประเด็นแง่มุมดังกล่าว ถือเป็นประเด็นที่มีความอ่อนไหวทางสังคม ซึ่งจะรีบพิจารณาและหาบทสรุปให้ลงตัวโดยวัยและเกิดผลกระทบต่อทุกฝ่ายให้น้อยที่สุดนั่นเอง และนอกจากนี้ก็ยังเกิดกระแสวิจารณ์จากพระสงฆ์รูปดังที่แสดงเจตนารมณ์ถึงเนื้อหาของหนังเรื่องอาบัติ ด้วยว่าหากสิ่งที่หนังนำเสนอนั้นเป็นเพียงแค่พระสงฆ์เพียงบางรูป เณรบางองค์เท่านั้นที่กระทำความผิด ความไม่เหมาะสมทางพระพุทธศาสนา หาใช่พระภิกษุสงฆ์หรือเณรทุกองค์ไม่ แต่กลับตีแพร่แง่มุมเพียงแง่เดียวออกสื่อสาธารณชน ทำให้สังคมเกิดความดูถูกเหยียดหยาม เกิดทัศนะคติในทางลบต่อพระพุทธศาสนา ทั้งที่มีเรื่องดีๆหลากหลายแง่มุมของการทำดีอยู่มากมายหากแต่ไม่มุ่งเน้นให้เกิดความศรัทธา ไม่ถือว่าเป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนานั่นเอง

ข่าวอาบัติ

ไม่ว่าจะมีบทสรุปลงอย่างไร แต่สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นเหมือนการราดน้ำมันบนกองไฟต่อกระแสความนิยมของหนังเรื่องนี้ ยิ่งทำให้เหล่าบรรดาแฟนๆหนังหนังผีระทึกขวัญยิ่งอยากที่จะเข้าชมตีตั๋วดูหนังเรื่องนี้อย่างเร็วไวจากกระแสที่เกิดขึ้น หนังทุกเรื่องและละครทุกช่อง ที่ต่างจะให้ความสนุกสนาน สร้างความบันเทิงต่อเหล่าผู้ชมแล้ว หากแต่ยังทำผู้ชมเกิดความคิดและทัศนะคติในการที่จะนำมาปรับใช้ในการดำรงชีวิตเรียกได้ว่าดูละครแล้วย้อนดูตัว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดของความตั้งใจที่ผู้ผลิตหนังต้องการที่จะสอดแทรกเนื้อหาสาระ ข้อคิดสติเตือนใจผ่านบทบาทของตัวละครทุกตัว ที่ว่าทำดีย่อมได้กรรมดี ทำไม่ดีย่อมได้กรรมไม่ดีเฉกเช่นเดียวกับตัวละครในเรื่องนี้เช่นกัน