แม่เบี้ย 2015 ภาพยนตร์คุณภาพ ที่มีดีมากกว่าแค่ฉากเลิฟซีน
หากจะเอ่ยชื่อถึง “แม่เบี้ย” บทประพันธ์อันส่งคุณค่าของ วานิช จรุงกิจอนันท์ เชื่อแน่ว่าหลายต่อหลายคน ต่างคุ้นเคยและคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เนื่องจาก “แม่เบี้ย” เป็นบทประพันธ์ ที่ได้รับการนำมาสร้างเป็นหนัง ละครทางโทรทัศน์ และละครเวทีมากถึง 5 ครั้ง ในยุคสมัยที่ต่างกัน แม่เบี้ยเป็นหนังอีโรติกสุดคลาสสิก ด้วยเนื้อหาอันเป็นเอกลักษณ์ ที่หยิบยกการตีความเชิงสัญลักษณ์ ผ่านงูเห่า ตัวละครที่ลึกลับแฝงด้วยพลังอำนาจอันเร้นลับ และความหน้าสะพรึงกลัว ที่เปรียบเปรยถึงศีลธรรมอันดีงาม ตัณหาราคะ กิเลสและความรัก ที่ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย “แม่เบี้ย” ก็ถูกนำกลับมารีเมค ตีความหมายใหม่ ที่แตกต่างไปตามยุคตามสมัยของการตีความจากผู้กำกับหนัง
และในปีนี้ “แม่เบี้ย” ได้ถูกนำกลับมารีเมคใหม่อีกครั้ง ผ่านการตีความใหม่ ให้เหมาะกับยุคสมัย ภายใต้การกำกับของ หม่อมน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล ผู้กำกับชั้นครู ผู้ซึ่งเคยฝากผลงานไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ชั่วฟ้าดินสลาย อุโมงค์ผาเมือง จันดาราปฐมบท และแผลเก่า ผลงานการกำกับหนังที่ผ่านมา ต่างเป็นตัวการันตีได้ถึงความมีคุณภาพ ความพิถีพิถันและความละเอียดละเมียดละไมในเนื้อหาของงาน ซึ่งเรื่องนี้หม่อมน้อย ย้ำชัดถึงเจตนารมณ์ในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ว่า ไม่ได้มีจุดขายแค่เพียงฉากเลิฟซีนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่มุ่งเน้นไปที่ความรัก ศีลธรรม ซึ่งพยายาม
สรรค์สร้างออกมาให้สอดคล้อง กับขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยอย่างพอดิบพอดี ในขณะเดียวกันการตีความตัวละครของงูในเรื่อง เราจะเห็นได้ว่างูมีขนาดใหญ่มากกว่าครั้งเวอร์ชั่นก่อนๆ เพราะถูกตีความในเชิงสัญลักษณ์ว่างูนั้นคือผู้พิทักษ์ศีลธรรมอันดีงาม ความรู้จักผิดชอบชั่วดี ด้วยเหตุนี้ จึงมีอิทธิฤทธิ์ พลังเหนืองูเห่าทั้งธรรมดาทั่วไป จึงถูกตีความให้มีขนาดเล็กใหญ่ที่แตกต่างกัน ตามแต่มุมมองของตัวละครนั้นๆ ซึ่งแฝงไปด้วยความหมายอันลึกซึ้งตามที่ผู้ประพันธ์เขียนไว้
บทประพันธ์อันทรงคุณค่า ที่ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นหนัง ผ่านสายตาแก่ผู้ชมมานับครั้งไม่ถ้วน ย่อมชี้ให้เห็นแล้วว่า “แม่เบี้ย” เป็นหนังคุณภาพ ที่มีดีมากว่าแค่ฉากเลิฟซีน ซึ่งไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัย แม่เบี้ยก็ยังคงได้รับความนิยม และเสียงตอบรับที่ดีจากบรรดานักอ่านก็ดี ผู้ชมหนังก็ดี รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบและชื่นชมในตัวผู้กับกับ หม่อนน้อย-ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล ผู้ซึ่งรังสรรค์ให้ “แม่เบี้ย2015” กลับมามีชีวิตโลดแล่นผ่านจอหนังอีกครั้ง พร้อมจะลงโรงเข้าฉายแล้ว ในวันที่ 17 กันยายนทุกโรงหนัง ผ่านการตีความใหม่และร่วมสมัย ที่หนังต้องการจะสื่อถึงสัจธรรมของชีวิต ศีลธรรมจรรยา ทำให้ผู้ชมได้ดู แล้วย้อนกลับมามองดูตัวเอง ว่าเรานั้นมีความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์หรือไม่
