รวมฉากเรียกน้ำตาของค่าย PIXAR

รวมฉากเรียกน้ำตาของค่าย PIXAR

ย้อนวันวาน 7 ฉากดราม่าที่ทุกคนน้ำตาไหลของหนังอนิเมชั่นจากค่าย PIXAR ก่อนจะน้ำตาคลออีกครั้งใน The Good Dinosaur

ถ้าพูดถึงหนังการ์ตูนอนิเมชั่นหลายๆเรื่องที่ส่งเข้าฉายในโลกจอหนังหรือที่เราได้รับชมจากสื่อต่างๆไม่ว่าโทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต ซีดี หรือ ดีวีดี ส่วนใหญ่ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากการรังสรรค์ผลงานและผลิตโดยค่าย Walt disney pictures (วอลท์ดิสนี่ย์พิคเจอร์ส)และการรวมงานกันระหว่างบริษัทในเครืออย่าง PIXAR Animation Studios (พิกซาร์อนิเมชั่นสตูดิโอส์) มักจะได้รับการตอบรับจากแฟนหนังอนิเมชั่นรวมถึงสื่อต่างๆที่ยอมรับในผลงานที่ผลิตออกมาสู่สายตาประชาชน ทั่งเนื้อหาที่แปลกใหม่ รูปแบบของหนัง การสื่อความหมายแนวคิดคติสอนใจที่จินตนาการผ่านเส้นดินสอในแบบการ์ตูนและเรียบเรียงมาได้อย่างเพอร์เฟค มีความสนุกสนาน ผจญภัย แอ็คชั่น ยิ่งไปกว่านั้นฉากที่เรียกน้ำตาก็ถือเป็นเครื่องหมายการค้าของค่ายนี้เลยก็ว่าได้ ทุกเรื่องที่ออกมานั้นมีครบทุกรสชาติเปี่ยมไปด้วยคุณภาพที่คัดกรอกมาอย่างดิบดีชนิดที่ไร้ที่ติเลยทีเดียว วันนี้เลยมานำเสนอ 7 ฉากจากหนังของ Disney และ Pixar ที่ทำเอาคนดูน้ำตาไหลพรากมาแล้ว ก่อนที่จะไปสัมผัสกับอีกหนึ่งอนิเมชั่นของดิสนี่ย์และพิกซาร์ที่จะนำทุกท่านย้อนไปสู่อดีตกาลเมื่อดาวห่างไม่ได้พุ่งชนโลกและไดโนเสาร์ยังคงอยู่

1.จากเรื่อง Toy story 2(ทอยสตอรี่) ฉากที่เจสซี่คลำครวญนึกถึงเจ้าของคนเก่าเอมิลี่

Toy Story 2

ฉากนี้เป็นฉากเรื่องทอยสตอรี่ 2 เมื่อปี1999 โดยเจ้าตุ๊กตาคาวบอยสาว Jessie (เจสซี่ย์) ที่กำลังนั่งเหม่อนึกถึงวันวานที่ผู้เป็นเจ้าของที่ชื่อ Emily (เอมิลี่) กำลังเพลิดเพลินกับทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันของเอมิลี่ที่ไม่ว่าจะทำอะไร ไปไหน เล่นอะไรก็ต้องพาตุ๊กตาคาบอยสาวติดตัวไปด้วยเสมอตลอดเวลา เมื่อวันเวลาผ่านไปจากเด็กสาวที่หลงใหลรักตุ๊กตาดั่งกับมันมีชีวิตและเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ก็เข้าสู่วัยกำลังสาวที่รักการแต่งตัวและคบหาเพื่อนฝูงโดยไม่ได้สนใจในของเล่นที่ตนนั้นเคยโปรดปรานมาก่อน วันแล้ววันเล่าที่ตุ๊กตาเฝ้ารอผู้เป็นเจ้าของกลับมาเล่นกับตนอีกครั้งเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็เหมือนจะไม่เป็นไปดั่งความคิดเจสซี่กลายเป็นตุ๊กตาคาบอยสาวที่มีฝุ่นปกคลุมและไม่มีการหวนแลจากเอมิลี่ผู้เป็นเจ้าของอีกเลย นับวันผ่านไปเจสซี่กลายเป็นตุ๊กตาที่ตกอยู่กับความเหงาเพิ่มความเศร้าด้วยบทเพลง When somebody loved me ของนักร้องสาว Sarah McLachlan (ซาร่า แมคลาชแลน) ยิ่งทำให้ฉากนั้นเต็มไปด้วยความเศร้าของการหวนรำลึกถึงอดีตของตุ๊กตาตกกระป๋องเจสซี่

2.ฉากจบของ Toy story 3(ทอยสตอรี่3) ที่แอนดี้ต้องลำลากับของเล่นทั้งหมด

Toy story 3

โดยเป็นภาคจบของทอยสตอรี่ก็คือภาคที่ 3 ในปี 2010 โดยในฉากเรียกน้ำตาอันดับสองนี้หนีไม่พ้นฉากจบของเรื่องนี้ในภาคสามที่ตัวละครอย่าง Andy (แอนดี้) ผู้เป็นเจ้าของที่แสนจะรักแสนจะห่วงในของเล่นชิ้นโปรดของเขาซึ่งเป็นตุ๊กตานายอำเภอที่เป็นตัวเอกของเรื่องคือ Woody (วู้ดดี้) โดยแอนดี้นั้นกำลังจะยกกล่องของเล่นทั้งหมดที่เขาสะสมและมีมาทั้งหมดให้กับเด็กหญิงข้างบ้านคนหนึ่ง ในกล่องนั้นยังมีนายอำเภอวู้ดดี้นอนอยู่เป็นตัวสุดท้ายซึ่งเด็กผู้หญิงก็กำลังจะไปหยิบมันขึ้นมารวมกับตัวอื่นๆแต่แอนดี้ก็หยิบวู้ดดี้ขึ้นมาพร้อมกับใส่หมวกคู่ใจให้นายอำเภอ แอนดี้เหมือนจะคิดถึงความหลังพร้อมเล่าเรื่องราวให้กับเด็กหญิงฟังก่อนจะมองหน้าวู้ดดี้และหมอบให้แก่เด็กคนนั้นไปก่อนจะไปแอนดี้ยังเล่นกับของเล่นในบทบาทที่มันเป็นครั้งสุดท้าย เรียกได้ว่าเป็นเหมือนสิ่งของที่ส่งต่อความทรงจำไปให้กับคนอีกรุ่นหนึ่งและเป็นฉากที่ติดตาตรึงใจใครต่อใครหลายคนที่ในวัยเด็กที่เติบโตมาได้ชมหนังอนิเมชั่นเรื่องนี้ตั้งแต่ภาคแรกตั้งปี 1995 ในฉากสุดท้ายแอนดี้กำลังจะขึ้นรถเดินทางก่อนจะหั่นมาที่เด็กหญิงคนนั้นที่กอดตุ๊กกาของตนอีกทั่งตุ๊กตาตัวอื่นๆที่ตั้งกองเหมือนจะมาส่งแอนดี้ ก่อนจะโบกมือบ๊ายบายอำลาโดยที่ไม่หันหลังกับมามองอีก ทำเอาคนดูต้องน้ำตาตกที่แอนดี้นั้นเหมือนจะใจลำบากที่ต้องทอดทิ้งเหล่าของเล่นแสนรักไป

3.จากเรื่อง Monster inc ฉากบูบอกลาเจ้าหนูคิดตี้

Monster inc

ในฉากนี้อยู่ในเรื่อง Monster Inc. บริษัทรับจ้างหลอน (ไม่) จำกัด เมื่อปี 2001 เป็นฉากที่เจ้า Kitty (คิดตี้)หรือ Sullivan (ซัลลีแวน) ต้องพาเด็กสาวตัวน้อยจากโลกมนุษย์มีนามว่า Boo (บู)  กลับมาส่งยังห้องนอนของเธอโดยการเดินทางผ่านข้ามช่วงมิติเวลาที่มีตู้เสื้อผ้าเป็นประตูเชื่อมสองโลกเข้าด้วยกัน โดยคิดตี้ต้องบอกลาบูเป็นครั้งสุดท้ายทั่งที่ใจไม่อยากทำด้วย ช่วงเวลาที่ทั่งคู่ได้เจอกันทำให้ความสัมพันธ์ยากที่จะอธิบายจากนั้นคิดตี้ก็บอกลาบูแล้วทั้งคู่ก็สวมกอดกันด้วยความรัก อีกทั่งตัวละครบูยังมีหน้าตาที่น่าเอ็นดูนัยน์ตาเศร้าอย่างเห็นได้ชัดมีซาวด์เป็นเสียงเปียโนบรรเลงล่ออยู่ตลอดรวมถึงการตัดฉากจากที่เฮฮาสนุกสนานกันอยู่มาสู่ฉากบอกลาแห่งความเศร้าก็ทำได้อย่างลงตัว ทันใดนั้นคิดตี้ก็เดินหันหลังกลับไปยังตู้เสื้อผ้าและทำร้ายประตูเชื่อมระหว่างสองโลกแต่บูไม่เชื่อลุกขึ้นจากที่นอนไปเปิดดูก็มีแต่เสื้อผ้าของตน เป็นฉากที่แสนจะเศร้าปริ่มด้วยน้ำตาของคนดู หากใครน้ำตาไม่ไหลแสดงว่าใจแข็งจริงๆ

4.จากฉากเปิด Finding Nemo (ไฟน์ดิ้ง นีโม) ฉากการจากไปของลูกปลาการ์ตูน

Finding Nemo

เรียกได้ว่าเปิดเรื่องราวแห่งโลกใต้ทะเลอันเงียบสงบก็ต้องมาเจอกับความโศกเศร้ากันเลยทีเดียว ในฉากดั่งกล่าวมีปลาการ์ตูนสองตัวที่เป็นคู่รักกัน  Marlin (มารีน)ผู้เป็นพ่อของไข่ที่กำลังฝักตัวกำลังมีความสุขกับคู่รักที่แอบวางไข่ในซอกหิน ไข่มีจำนวนหลายใบจนนับไม่ถ้วนทั้งหมดรอเวลาฝักตัวและออกมเผชิญโลกใต้ทะเล แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดเมื่อมีเจ้าปลานักล่า Baraccuda (บาราคูดา) หรือที่เรารู้จักในชื่อ”ปลาสากใหญ่”ที่นิยมกินปลาตัวเล็กเป็นอาหารที่ผลัดหลงจากฝูงก็ว่ายมาอยู่ใกล้ๆบริเวณที่แม่ปลาการ์ตูนวางไข่ มารีนรับรู้ได้ถึงอันตรายที่กำลังจะตามมาจึงให้แม่ปลาการ์ตูนนั้นไปเฝ้าระวังไข่ทั้งหมด ทันใดนั้นเจ้าปลาสากใหญ่ที่หิวโหยพุ่งตรงเข้าหาแม่ปลาการ์ตูนแต่มารีนเข้าสกัดและปะทะกับเจ้าปลาสากใหญ่จนมารีน กระแทกกับโขดหินจนหมดสติ เมื่อฟื้นขึ้นมามารีนตามหาคู่รักของตนอีกทั่งยังตามหาลูกๆที่อยู่ในไข่ แต่ก็พบกับความผิดหวังเพราะไม่เหลือเศษซากอะไรเลย ในหวงอารมณ์ที่ท้อแท้ หมดหวังกับชีวิตที่เหมือนฟ้ากลั่นแกล้งก็ยังมีความโชคดีอยู่ มารีนเห็นไข่อีกหนึ่งใบที่ตกอยู่ใต้ก้นทะเล จึงเข้าไปดูจนรู้ว่าไข่ใบนั้นไม่ได้รับอันตรายจากการโจมตีของปลาสากใหญ่ มารีนจึงสัญญาว่าจะดูแลไข่ใบนี้ให้ดีที่สุด ไข่ใบนั้นเองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการกำเนิดปลาที่มีชื่อว่า Nemo (นีโม)

5.Wall-E(วอลล์ -อี)กับการสูญเสียความทรงจำ

Wall-E

เมื่อมนุษย์ได้ละทิ้งโลกอีกทั่งยังเต็มไปด้วยกองขยะที่ทัพถมกันนานกว่า 700 ปี หุ่นยนตร์ที่ทำหน้าที่เก็บขยะ นามว่า Wall-E (วอลล์-อี) มีเพียงแมลงสาบเป็นเพื่อนคู่กายยังคงเป็นอีกหนึ่งอนิเมชั่นที่เรียกได้ว่าแปลกใหม่และเนื้อหาที่ไม่เหมือนใคร ทำเอาประทับใจหลายต่อใครหลายคนอีกทั่งฉากที่เรียกน้ำตาของหุ่นยนตร์เก็บขยะตัวคือฉากจบของเรื่องที่เจ้าวอลล์-อีนั้นประสบพบเจอกับเหตุการณ์ต่างๆมาทั้งเรื่องและสูบเสียความจำทั้งหมด EVE (อีฟ)หุ่นยนตร์ที่ถูกส่งมาเพื่อหาต้นไม้ในโลกและวอลล์-อีตกหลุ่มรักอีฟตั้งแต่พบเจอ อีฟนั้นก็พยายามเล่าความทรงจำต่างๆเพื่อรื้อฟื้นความจำจากลูกเล่นทั้งหมดที่อีฟนั้นมี นับเป็นฉากที่เรียกน้ำตาให้เจิงหนองและรอยยิ้มอบอุ่นจากคนดูได้มากมาย นับเป็นฉากที่ประทับใจอย่างยิ่ง

6.จากปะทะคารมณ์ของราชินีแม่กับเจ้าหญิงเมอริดา ในเรื่อง Brave (เบลฟย์)

Brave

ในหนังอนิเมชั่นเรื่อง เบลฟย์ นักรบสาวหัวใจมหากาฬเมื่อปี 2012 ที่หยิบยกมาเป็นฉากเรียกน้ำตาจากคนดูอีกหนึ่งเรื่องโดยเกิดขึ้นระหว่างราชินีผู้เป็นแม่มีนามว่า Elinor (เอลินอร์) ที่ต้องการจะสั่งสอนลูกสาวของตนที่ชื่อว่าเจ้าหญิง Merida (เมอริดา) ให้เดินตามรอยตนและการวางตัวให้เหมาะสมกับการเป็นราชินีที่ดีในอนาคตแต่การที่ราชินีเอลินอร์ทำแบบนี้กับเหมือนกับบีบบังคับทุกอย่างให้เจ้าหญิงเป็นดั่งใจต้องการ และไม่ให้อิสระแก่เมอริดา ด้วยอารมณ์ชั่ววูบในขณะนั้นราชินีได้หยิบธนูของเจ้าหญิงก่อนที่จะโยนใส่กองไฟ แต่สุดท้ายราชินีที่รู้สึกผิดต่อการกระทำของตนก็เขี่ยธนูออกมาจากกองไฟนั้น เรียกได้ว่าที่ทำไปเพราะรักจริงๆ ต้องชมว่าเยี่ยมกับการแสดงถึงอารมณ์ความโกรธที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักของตัวละครในรูปแบบอนิเมชั่น

7.ทิ้งท้ายความเศร้าจากเรื่อง Up (อัพ) ชีวิตของเอลลี่และคาร์ล

Up

Up (อัพ) ปู่ซ่าบ้าพลัง ในปี 2009 โดยแรกเริ่มจะเป็นการเล่าความเป็นมาของสองตัวละครอย่างปู่ Carl Fredricksen (คาร์ล เฟดเดริก) กับคนรักนั้นก็คือ Ellie (เอลลี่) ว่าเป็นมาอย่างไร… เอลลี่นั้นเป็นสาวหล่อทอมบอยที่เป็นคู่หูและสนิทสนมชนิดที่ไปไหนไปกันตั้งแต่ในวัยเด็กของคาร์ลจนเมื่อโตขึ้นในความสัมพันธ์นั้นจึงเปลี่ยนจากเอลลี่ทอมบอยมาเป็นสาวสวยผู้น่ารักและทั่งคู่ก็แต่งงานและใช้ชีวิตฉันท์สามีภรรยากันตลอดมา จนเมื่อวันเวลาผ่านไปมาจนถึงวัยชราความแก่เข้ามาเยือนในร่างของคาร์ลและเอลลี่ แต่เอลลี่นั้นยังมีโรคภัยไข้เจ็บตามติดตัวมาด้วย ในฉากนี้มีแต่เสียงดนตรีประกอบ ไม่จำเป็นต้องมีคำพูดจากตัวละครใดๆทั้งสิ้น ในช่วงเวลาไม่กี่นาทีก็สามารถสร้างความประทับใจอีกทั้งเรียกน้ำตาจากคนดูที่ต่างเข้าใจและพากันเศร้าไปกับปู่คาร์ล เชื่อได้เลยว่าแฟนหนังอนิเมชั่นที่ได้ดูเรื่องนี้ก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันแน่นอนว่า “ของเขาทำดีจริง จริง”

นี้เป็นเพียงแค่การคัดสรรค์เรื่องราวบางส่วนที่เรียกน้ำตา รอยยิ้ม ความสุขจากแฟนหนังทั่วโลก ที่ต่างยอมรับในคุณภาพฝีมือของการทำหนังอนิเมชั่นค่าย Disney และ PIXAR ที่มีครบทุกรสชาติ ทุกรูปแบบของหนังหนังและหนังการ์ตูนอนิเมชั่นแถบทุกเรื่องที่ออกมาฉายต่างมีคุณภาพทั้งสิ้นและอีกหนึ่งผลงานจากดิสนี่ย์ร่วมกับพิกซาร์ ที่จะพาคุณร่วมผจญภัยในแบบครอบครัวสู่ยุคไดโนเสาร์ที่งานนี้มิตรภาพ ความรัก จากต่างเผ่าพันธุ์จะให้คุณได้สัมผัสทั้งเสียงฮา น้ำตา และรอยยิ้ม The Good Dinosaur