J. M. Barrie นักประพันธ์ชื่อดังเจ้าของวรรณกรรมเรื่องเยี่ยม Pan 2015

เตรียมตัวเตรียมใจของคุณให้พร้อม เพื่อพบกับความสนุกครั้งยิ่งใหญ่ตื่นเต้นเหนือจินตนาการไปกับ Pan มีกำหนดเข้าฉายในวันที่ 8 ตุลาคม2015 นำแสดงโดย ฮิวจ์ แจ็คแมน, อแมนด้า ไซย์ฟริด,เลวี่มิลเลอร์, รูนีย์ มารา, แกร์เร็ต เฮดลันด์, น็อนโซ่ อโนซี่ Pan หนังแฟนตาซีที่สร้างจากผลงานงานวรรณกรรมเยาวชนเรื่องเยี่ยม เป็นที่รู้จักทั่วโลกครองใจนักอ่านมาอย่างยาวนาน ซึ่งผ่านการดัดแปลงสร้างสรรค์เป็นหนังมาแล้ว ในอีกหลากหลายเวอร์ชั่นและมีมาทุกยุคทุกสมัย จนเป็นที่ติดตราตรึงใจให้แก่เหล่าบรรดาแฟนๆผู้ชมหนัง รวมถึงแฟนๆนักอ่านผลงานววรณกรรมเรื่องนี้อีกด้วย โดยเป็นผลงานของเจ เอ็ม แบร์รี่ ( J. M. Barrie) หรือ เจมส์ แมทธิว แบร์รี่ นักเขียนและนักแต่งบทละคร ชาวสก็อตแลนด์ชื่อดังผู้เป็นตำนานในวงการวรรณกรรม เป็นผู้ประพันธ์หนังสือเรื่องนี้ในนามของ ปีเตอร์แพนแอนด์เวนดี (Peter and W]’koendy) ซึ่งเป็นผลงานที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นผลงานเรื่องที่ดีที่สุดที่เค้านั้นเคยประพันธ์ขึ้นในช่วงชีวิตของเค้า โดยเจ เอ็ม แบร์รี่ ( J. M. Barrie)เสียชีวิตในปี 1937 พร้อมกับประโยคที่เค้าพูดก่อนตายที่ว่า I Can’t Sleep (ฉันนอนไม่หลับ)

เจมส์ แมทธิว แบร์รี่ได้ตกหลุมรักกับนักแสดงหญิงอย่างแมรี่ แอนเซล แต่ชีวิตการแต่งงานของคนทั้งคู่นั้นไม่ราบรื่นและความสัมพันธ์ค่อยๆดิ่งลงเหวมากขึ้นเรื่อยๆ จนภรรยาของเค้าหมดความอดทนเธอกล่าวว่าเจมส์ แมทธิว แบร์รี่เป็นคนเย็นชา ตายด้าน และเป็น เด็กผู้ไม่รู้จักรัก ชีวิตของเค้าได้รับการเปิดเผยภายหลังว่า เขามีชีวิตที่น่าเศร้ามากกว่าที่หลายคนคิดและแทบจะไม่เคยมีใครรับรู้เลย เนื่องด้วยในวัยเด็ก เค้าไม่ค่อยได้รับความรักจากผู้ที่เป็นมารดาเลย หากเพราะพี่ชายคนโตของ แบร์รี่นั้นป่วยหนักในวัยที่เค้ามีอายุได้เพียง 7ขวบและเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุในเวลาต่อมา เดวิทพี่ชายคนโตของเค้าเป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวน เป็นลูกชายคนโปรดและเป็นสุดที่รักของผู้เป็นแม่ ทำให้ผู้เป็นมารดาของเค้านั้นเอาแต่เศร้าโศกเสียใจต่อเหตุการณ์ครั้งนั้น เธอตกอยู่ในห้วงโทมนัสนั้นตลอดจนชีวิตที่เหลือของเธอ จนหลงลืมละเลยไม่เคยใส่ใจในตัวลูกชายอีกคนที่เหลืออยู่ไป ทำให้เป็นที่ฝังใจและคิดไปว่ามารดาไม่เคยรักเค้าเกิดปมชีวิตครั้งสำคัญตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งเขาได้ตัดสินใจเขียนชีวประวัติผู้เป็นมารดาถ่ายทอดอกกลงในหนังสือและตีพิมพ์ในปี 1896และ แบร์รี่ยังให้ความสนิทสนมกับท่าน เซอร์ อาเธอร์ โคนันดอยล์เพื่อนสนิทร่วมชมรมคริกเก็ตอีกด้วย โดยเจมส์ แมทธิว แบร์รี่นั้นเกิดในดินแดนชนบทอันแสนห่างไกลทางตอนใต้ของสกอตแลนด์ ในหมู่บ้านฟอร์ฟาเซียร์มีบิดาและมารดาชื่อนายและนาง เดวิด แบร์รี่ /มาร์กาเรต โอกิลวี่ เป็นบุตรคนที่ 9จากจำนวนบุตรทั้งหมด 10คน ซึ่งก่อนหน้านั้น เจมส์ หรือ เจมี่ชื่อที่ครอบครัวใช้เรียกเค้า ได้ออดอ้อนให้ผู้เป็นแม่เล่านิทานกล่อมเค้าและบรรดาพี่ๆน้องๆให้ฟังทุกเย็นถึงตำนานโจรสลัดจากนวนิยายของ โรเบิร์ต หลุยส์ สตีเวนสัน ทำให้เค้าเกิดจินตนาการตั้งแต่วัยเยาว์เป็นต้นมา เจมส์ แมทธิว แบร์รี่ตัดสินใจเดินทางออกจากหมู่บ้านในวันที่เค้ามีอายุได้เพียง 13ปีเท่านั้น เพื่อเดินทางไปศึกษาต่อหากแต่เพราะความมีปมของเค้าและความผิดปกติทางร่างกายที่ไม่เหมือนเพื่อนๆคนใด เค้าจึงไม่เลือกสุกสิงคบใครทั้งหญิงและชาย เก็บเนื้อเก็บตัวไม่สนใจใคร และตั้งแต่นั้นมาจึงเบนความสนใจทั้งหมดไปอยู่ที่งานเขียนและบทละครที่เค้าชอบ ในปี 1882 ได้เริ่มงานกับวารสารนอตติ้งแฮม เจอร์นัล ในตำแหน่งคอลัมนิสต์หลังจากที่เค้าเรียนจบทางด้านศิลปะศาสตร์ในรั้วมหาวิทยาลัยได้เพียงไม่นานโดย Better Dead คือหนังสือนวนิยายเล่มแรกในชีวิตของเค้าที่ได้รับการตีพิมพ์ และได้รับการตีพิมพ์ในนวนิยายเรื่องอื่นมาเรื่อยๆ แต่ที่ประสบความสำเร็จและได้รับความนิยมสูงสุดเห็นจะเป็นนวนิยายเรื่อง Little Minister ซึ่งในเวลาต่อมาได้รับการติดต่อสร้างเป็นหนังมากถึง 3ครั้งด้วยกันโดยPeter and Wendyฉบับที่กลายเป็นวรรณกรรมนั้นถูตีพิมพ์ขึ้นในปี 1911 ซึ่งความเป็นมาของ

นวนิยายเรื่องปีเตอร์แพนนั้นพัฒนามาจากนิทานที่เล่าให้กับลูกเลี้ยงทั้งห้าคนของเจมส์ แมทธิว แบร์รี่ซึ่งเค้าให้ความอุปปะการะเลี้ยงดูไว้ตั้งแต่ที่บิดาและมารดาของเด็กเสียชีวิตลง โดยที่ชื่อปีเตอร์แพนนั้นนำมาจากชื่อของ ปีเตอร์ ลูกเลี้ยงคนที่ห้าของเค้านั้นเอง โดยเรื่องราวในนวนิยายนั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับเด็กชายผู้หนีออกจากบ้านและมีนิสัยที่ไม่ยอมโตนามว่าปีเตอร์แพน โดยมีภูตทิงเกอร์เบลติดตามตัวเขาไป พร้อมทั้งเวนดี้และเด็กๆตระกูลดาร์ลิ่งเดินทางไปยังเนเวอรร์แลนด์ดินแดนของเด็กๆที่ถูกทิ้ง โดยมีกัปตันฮุคผู้รับบทบาทเป็นผู้ร้ายตามบทละครจับตัวบรรดาเด็กๆไป แต่ด้วยความกล้าหาญของปีเตอร์แพน เข้าต่อสู้กับกัปตันฮุคอย่างไม่ลดละ จนสุดท้ายก็สามารถให้ความช่วยเหลือเด็กๆได้สำเร็จนั่นเอง

ในช่วงชีวิตของเจมส์ แมทธิว แบร์รี่ ได้รับการแต่งตั้งยศฐาบรรดาศักดิ์ถึง2ครั้งด้วย โดยครั้งแรกได้รับการแต่งตั้งให้เป็น บารอเนทและครั้งสุดท้ายได้รับการเลื่อนชั้นยศเป็น ท่านเซอร์เป็นที่นับหน้าถือตาแก่คนทั่วไปในยุคสมัยนั้นเป็นอย่างมาก จวบจนถึงทุกวันนี้ที่ชื่อของเค้าและผลวรรณกรรมเรื่องเยี่ยมนามว่า ปีเตอร์แพนได้รับการจารึกในหน้าประวัติศาสตร์วงการวรรณกรรมที่สุดท้ายกลายมาเป็นตำนานให้เล่าขานสืบต่อกันในรุ่นสู่รุ่นที่ไม่มีที่ว่าจะเลือนหายไปตามกาลเวลา หากแต่เป็นที่จดจำและถูกยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก